ทุกข์หฤหรรษ์
ความจริง
ข้าพเจ้าไม่ใคร่อ่านหนังสือประเภทรวมเรื่องสั้น
เว้นแต่จะถูกดึงดูดความสนใจโดยโปรยปกอย่างจริงจัง
หรืองานเขียนเหล่านั้น
มาจากมันสมองของนักเขียนที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ
ส่วนหนึ่งเพราะข้าพเจ้าเบื่อการประดิดประดอย
เบื่อการปั้นแต่ง
การพยายามที่จะทำให้ถ้อยคำเหล่านั้นมันดูสวยกว่าที่ควรจะเป็น
เบื่อความเวิ่นเว้อ
บรรยาย เกริ่นเรื่องสภาพท้องฟ้า
สายลม แสงแดด
ที่กินพื้นที่ไปหลายหน้ากว่าจะได้เข้าเนื้อหาหรือแก่นสาร
คนรักบอกว่า
ก็แพรวาเป็นมนุษย์ Gen Y
คือไม่ชอบน้ำๆ
ชอบเนื้อๆ
(วันดีคืนดีก็ว่าข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ทื่อทะลื่อ Gen X ซะงั้น)
หรือเรื่องสั้นบางเรื่อง
ข้าพเจ้าก็มิอาจเข้าใจได้
อาจด้วยสติปัญญาที่โง่งมเกินไป
หรืออาจเพราะความคิดของนักเขียนผู้นั้น
ลึกซึ้งเกินไป
ราวกับไม่ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจอะไรเลย
คุณสมบัติเหล่านี้
ทำให้ข้าพเจ้าเบื่อหน่าย
และเคยเอียนจนถึงขั้นยุติการอ่านวรรณกรรมประเภทเรื่องสั้น
ไปหลายเดือน
แล้วหันหน้าให้บทความ
สารคดี หรืองานเขียนอื่นๆ
ที่ดูจริงใจ
ง่ายๆ แต่มีอะไรให้เก็บเกี่ยวได้
เป็นก้อนความรู้
ประกอบความคิด ข้อเท็จจริง
มิใช่แค่ก้อนความคิด
ของผู้เขียนเท่านั้น
บางที
ข้าพเจ้าก็หาได้อยากรู้ว่า
นักเขียนคนนั้นต้องการสื่ออะไร
หรือคิดอะไรอยู่
เขาจะคิดอะไรก็เรื่องของเขา
จะมองโลกยังไง
ก็เรื่องของเขา (อีก)
ก็แล้วกัน
หากเมื่อข้าพเจ้าได้อ่านงานของเดือนวาด
ข้าพเจ้าได้อ่านเพียงแค่
2 เล่ม
คือ ช่างสำราญ
และเล่มนี้
ทุกข์หฤหรรษ์
ข้าพเจ้ากลับมาอ่าน "เรื่องสั้น" อย่างมีความสุขอีกครั้ง
ข้าพเจ้าชอบ
เพราะเป็นงานเขียนที่ดูจริงใจ
และเรา
(ผู้เขียนและผู้อ่าน)
อาจสื่อสารกันได้
ด้วยรอยยิ้ม
เสียงหัวเราะเบาๆ
หรือความโศกเศร้าขุ่นเคืองอันถาโถม
บางเรื่อง
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ดู
ผู้ชม ผู้สังเกตการณ์
แต่บางเรื่อง
ข้าพเจ้าก็เผลอตัวไปมีอารมณ์ร่วม
ประหนึ่งว่าไปเป็นตัวละครนั้นเสียเองซะเฉยเลย
บางเรื่องข้าพเจ้าเผลอยิ้มกรุ้มกริ่ม
บางเรื่องข้าพเจ้าคิ้วขมวด
บางเรื่องข้าพเจ้าซึม และนิ่ง
ข้าพเจ้ายอมแพ้โดยสิ้นเชิงให้งานเขียนของเดือนวาด
ข้าพเจ้าพยายามค่อยๆ
อ่าน
ค่อยๆ
ละเลียด
เพราะกลัวจะจบเล่มเร็วเกินไป
แต่ในขณะเดียว
ก็อยากอ่านตอนต่อไป
อยากดื่มด่ำโดยไม่ทิ้งเสียเวลาแม้เพียงสักนาทีให้เสียไป
มันเป็นความขัดแย้งในตัวเอง
ที่ยากนักสำหรับจะพบเจอในการอ่านเรื่องสั้น
คนรักข้าพเจ้าถามว่า
"ทำไมอ่านเร็วจัง”
เขาบอกให้ข้าพเจ้าค่อยๆ
อ่าน
งานเขียนดีๆ
ต้องค่อยๆ ละเลียดอ่าน
นั่นน่ะสิ
ข้าพเจ้าก็พยายามอยู่
แต่เขาก็น่าจะรู้
สำหรับการอ่านงานของเดือนวาด
มันไม่ง่ายเลยนะ
ที่จะไม่อ่านจบทั้งเล่มภายในวันเดียว
แม้จะต้องเป็นหมีแพนด้าในวันถัดไปก็ตาม
ที่ทำได้คือ
จบหนึ่งเรื่อง
หลับตาพักสักครู่
ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ทักทายกับความรู้สึก
ไม่ต้องรู้จักกันอย่างถ่องแท้หรอก
เพราะมันยากจะอธิบาย
ว่าระหว่างการอ่านบทหนึ่งนั้น
มีอะไร
ไหลมาสู่สมองและหัวใจของเราบ้าง
รู้แค่เราอิ่มกับอะไรบางอย่าง..ก็พอ
ป.ล.
หลังอ่านจบ
ข้าพเจ้าหยิบหนังสือเล่มบางๆ
มาอีกหนึ่งเล่ม
หวังจะอ่านต่ออีกสักนิดแล้วค่อยนอน
แต่อ่านได้แค่ไม่กี่หน้า
ก็ต้องวาง
เพราะรู้สึกตัวว่า
ข้าพเจ้าอิ่มเกินกว่าจะรับอะไรเข้าไปเพิ่มได้อีก
และ
"ทุกข์หฤหรรษ์"
เดือนวาดยังไม่ย่อย
ด้วยรัก แม้ไม่สนิท
แพรวา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น