31 พ.ค. 2556

บทบริภาษคนรัก




ครุ่นคิดก่อนนอน


1. เมื่อต้องเจอเรื่อง Sensitive ที่สามารถทำร้ายเราได้อย่างรุนแรง..ครั้งแล้วครั้งเล่า

ถ้าพูดคุยกันดีๆ ก็แล้ว..โกรธกันก็แล้ว..ยังไม่วายเกิดขึ้นหรือมีให้เห็นอยู่ร่ำไป

ทางเลือกที่ทำได้เพื่อรักษาใจเราอย่างถาวรก็คือ..

ปล่อยวางสิ่งที่เขาคนนั้นกระทำ..แต่ถ้าทำไม่ได้ วิธีที่ง่ายกว่านั้นก็คือ

ปล่อยคนที่กระทำสิ่งนั้นไปซะ!!



2. ผู้หญิงอย่าหยุดสวย อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้เป็นป้าเพิ้งมากนัก..หึๆ

โดยเฉพาะผู้หญิงที่ยังไม่มีคนรัก หรือแม้ผู้หญิงที่มีคนรักแล้ว แต่คนรักยังกดถูกใจเพจสมาคมนิยมสาวสวย สาวลาว สาวเกาหลี สาวเซ็กซี่ หรือแอดเฟรนด์สาวน่ารักๆ อยู่เสมอ

เพราะนั่นหมายความว่า ต่อให้เขาบอกเราว่าไม่ต้องสวย ไม่ต้องแต่งเยอะ..แต่ในใจเขาก็ยังปรารถนาอาหารหูอาหารตาอยู่นั่นเอง

ก็เลือกเอา ว่าจะสวยให้เขาดู หรือให้เขาไปดูคนสวยคนอื่นๆ

แต่ถ้าเป็นข้าพเจ้า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นอย่างหลัง

ไปๆ เสียเถิด อยากดูอะไรก็ดู อยากไปไหนก็ไป

ข้าพเจ้าไม่เสียเวลามาประทินโฉมเพื่อมัดใจใครเช่นนั้นแน่นอน

จะปรารถนาก็จงปรารถนาที่หัวใจ และจงปรารถนาข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

ข้าพเจ้าจะสวยเพียงเท่านี้

จะไม่แต่งหน้าหนา หรือมีเครื่องสำอางไปมากกว่านี้

จะไม่ทำสีผม จะไม่ดัดผม จะไม่พิมพ์นิยม ไม่ติดขนตาปลอม ไม่เสริมดั้ง ไม่ทำอะไรทั้งนั้น

ที่จะทำให้ข้าพเจ้าไม่คุ้นเคยกับตัวเอง

ถ้าคนรักของข้าพเจ้าอยากจะมองดูผู้หญิงที่มีลักษณะเช่นนั้น

ก็จงไปมองคนอื่นเสีย

อย่าได้มามองข้าพเจ้า



ถ้าเป็นเมื่อก่อน

ข้าพเจ้าอาจอนุญาตให้คนที่อยู่ในฐานะคนรัก ได้มอง ได้เข้าใกล้ ให้เขาได้ดูอย่างที่เขาอยากจะดู

และในขณะเดียวกัน

ข้าพเจ้าก็จะอนุญาตให้ตัวเองทำเช่นนั้นเหมือนกัน

ด้วยคติที่ว่า You can..I can

และข้าพเจ้าก็มักจะทำเกินเลยกว่าที่เขาทำเสียด้วย

เพราะมันจะไม่ใช่แค่การดู หรือกดถูกใจในโลกเสมือนจริง

โลกจริงๆ ข้าพเจ้าก็อาจไปเข้าใกล้คนอื่น ไปมองคนอื่นใกล้ๆ

ให้รู้แล้วรู้รอด




แต่ด้วยปัจจุบันนี้

ข้าพเจ้าเหนื่อย

และไม่ปรารถนาจะทำเช่นนั้นอีกต่อไป

ข้าพเจ้าลองมาหลายครั้ง เป็นมาหลายหน

เมื่อเห็นคนรักไปกดถูกใจ ไปติดตามสมาคมสาวสวย คนน่ารัก

ข้าพเจ้าจะกลับมาถูกใจรูปภาพหรือสเตตัสของหนุ่มหล่อในรายชื่อเพื่อนตัวเองบ้าง

หรือเข้าไปกระหน่ำกดถูกใจในเพจ Cute boy ต่างๆ

การกระทำของข้าพเจ้า จะไปแสดงให้เขาเห็น

เพราะเราเป็น close friend กัน



แต่ก็เท่านั้น

ข้าพเจ้าทำไปเพราะประชด

การประชด หาใช่ทางออกที่แท้จริง

เมื่อข้าพเจ้าก็ไม่ได้อยากมองใคร ไม่ได้อยากไปตามดูใคร

มันหมดช่วงอารมณ์เช่นนั้นไปเสียแล้ว

การทำเช่นนั้น ก็เท่ากับสร้างภาระให้ตัวเอง

เช่นนั้นแล้ว

จะทำไปทำไม

เมื่อต้นเหตุของการกระทบกระเทือนจิตใจก็ยังคงอยู่



ข้าพเจ้าจำเนื้อความที่เขาเคยสื่อสารกับข้าพเจ้าได้

ว่าครอบครัวของเขา ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความรัก

ครอบครัวเขาให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์

พ่อของเขา ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนเลยเมื่อมีแม่




นั่นแล เขาเรียกร้องหาความซื่อสัตย์จากข้าพเจ้า

แต่ในขณะเดียวกัน

สายตาของเขา หาได้เป็นเช่นพ่อตัวเองไม่



มันคงเป็นแค่เรื่องตลก

ทุกครั้งที่เขามองผู้หญิงคนอื่นจนเหลียวหลัง

แล้วข้าพเจ้าต้องกระแอม ต้องทำเสียงดัง ต้องสะกิดด้วยฝ่ามือ

ให้เขารู้สึกตัว

เราหัวเราะกัน เขาทำให้มันเป็นเรื่องตลก ข้าพเจ้าทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องตลก



มันคงเป็นเรื่องตลก

ที่ข้าพเจ้ามักจะเห็นว่าเขามองใครที่เดินผ่านไปมาในระยะสายตา

มันอาจเป็นสัญชาตญาณบางอย่าง

ที่รู้ได้ว่า คนรักของเราจะต้องมองผู้หญิงคนนี้

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

แต่ก็นั่นแหละ

มันคงเป็นสัญชาตญาณของเขาเช่นกัน

การมองของสวยๆ งามๆ เช่นนั้น

มันคงควบคุมไม่ได้จริงๆ

เราหัวเราะกัน..ไม่ใช่สิ ข้าพเจ้าแสร้งหัวเราะไป



เราเคยคุยกันหลายครั้ง

ข้าพเจ้าเคยไม่คุยกับเขาหลายวัน

ด้วยสาเหตุนี้

ข้าพเจ้าบอกเขาเสมอว่า การกระทำเช่นนี้ ข้าพเจ้าไม่ชอบ

จะว่าข้าพเจ้าใจแคบ

ข้าพเจ้าก็จะยอมรับ




เรื่องนี้อาจไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอื่น คู่อื่น

หรือแม้กระทั่งอาจไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาด้วย

แต่มันเป็นปัญหาสำหรับข้าพเจ้า

เป็นเรื่องกระทบใจข้าพเจ้า

กระทบเสมอมา

กระทบทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เช่นนี้

และวันนี้ ก็ยังคงเหมือนเช่นทุกวัน




เอาล่ะ

เมื่อมันเป็นปัญหาของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าก็จะจัดการกับใจตัวเอง

ข้าพเจ้าไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายการถูกใจของใครมากนัก

เมื่อข้าพเจ้าไม่ถูกใจ

ก็ซ่อนมันไปเสีย

หรือลบมันไปซะ



ลบใคร ลบอะไรล่ะ

นั่นแหละ..ประเด็น




วันนี้ ตอนนี้ ข้าพเจ้าเสียใจ เสียความรู้สึก

ราวกับการกระทำนั้นมันร้ายแรงมาก

ใช่ มันร้ายแรง

เพราะมันเกิดซ้ำๆ

เจ็บช้ำกันซ้ำๆ

ทีละเล็ก ทีละน้อย

ย้ำๆ กันเข้าไป



มันแสดงถึงการไม่ใส่ใจ

ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย

มันคือการปฏิเสธการเรียกร้องของอีกคน

ด้วยการบอกว่า

สิ่งที่เธอเรียกร้องนั้น

มันงี่เง่าสิ้นดี

และฉันหาได้แคร์แต่อย่างใดไม่



ถ้างั้นก็อยู่กับสาวๆ และสมาคมเหล่านั้นไปเสีย

ข้าพเจ้ามิอาจทนกับสภาพการณ์เช่นนี้ได้อีกต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น