9 ส.ค. 2556

R.I.P.



วันนี้ ความจริงตั้งใจจะลงรถเมล์แล้วเดินเข้าห้องเลย

เพราะเหนื่อย และง่วงเต็มทน

อีกทั้งกินลูกชิ้นรองท้องไปแล้วสามไม้

คิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับค่ำคืนนี้

แต่เมื่อเย็นๆ ได้รับโทรศัพท์จากคนรัก

แจ้งข่าวว่าจะมาหา

ตามปกติ ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็จะลงรถเมล์ที่ตลาดรุ่งเจริญ

เพื่อซื้อผลไม้ไปตุนไว้ให้เขา

วันนี้ก็เช่นกัน



ข้าพเจ้าถึงตลาดราวเกือบ 1 ทุ่ม

ฟ้ากำลังกึ่งมืดกึ่งค่ำ

แต่ผู้คนที่ตลาดก็ยังเยอะแยะเบียดเสียดอยู่ดี

ความจริง วันนี้รู้สึกว่า

จะเยอะกว่าทุกวัน

ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

ช่วงมุมโค้งซึ่งเป็นจุดวิกฤตที่สุดของตลาดนั้น

เบียดกันสุดชีวิต มีทางให้เดินไม่ถึงครึ่งตัวคน

หมายความว่า

ต้องเอียงข้างผ่านช่องนั้นไป

สองฝั่ง ทั้งจะไปและจะมา ก็แออัดดันตัวเองให้ผ่านจุดนี้

ด้วยความทุลักทุเล



ถ้าเป็นปกติ

ข้าพเจ้าคงไม่เบียด

คงรอให้สถานกาณ์ความแออัดคลี่คลายลงก่อน

คงไปดูปลาทอง ดูหนูตัวเล็กๆ กระต่ายตัวน้อยๆ ที่เขาเอามาวางขายไปพลางๆ

แต่วันนี้

ด้วยความเหนื่อย

และสองมือก็ล้าเต็มทน

ด้วยแตงโมครึ่งลูก

ลำไยโลครึ่ง

เงาะสองกิโล

และขนมหวานอีกนิดหน่อย

ประมาณว่า

แขนอันบอบบางทั้งสองข้าง

จะทนได้อีกราวๆ ไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น

จึงต้องเบียดกับผู้คนด้วย

เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ต้องเดินไปให้สุดทาง

เพราะข้างหลังก็บ่นอุบ

สบถกันไปบ้าง

ตามประสา




พ้นจากจุดนั้นมาได้

ข้าพเจ้าก็แวะซื้อกระเพาะปลา

ตอนจ่ายเงิน ก็เหลือบไปเห็นอะไรแดงๆ โผล่ออกมาจากกระเป๋า

ตอนแรกเข้าใจว่าตัวเองลืมรูดซิบ

แต่เอ๊ะ


มันโผล่จากด้านข้างเลยนี่หว่า

ก็เลยพลิกดูให้ชัด

โอ้ว พระพุทธเจ้า




ครั้งแรกในชีวิต

กระเป๋าโดนกรีด

ลึกทะลุชั้นนอกและชั้นกลาง

แดงๆ ที่โผล่ออกมาเจียนหล่นนั่นคือ คีย์การ์ดและกุญแจงห้อง



ข้าพเจ้าตกใจ

แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปมากมาย

คงเพราะกำลังช็อคอยู่นิดๆ

ไม่มีการโวยวายใดๆ ทั้งสิ้น



ล้วงสำรวจในกระเป๋าเบื้องต้น

เพื่อดูความเสียหาย



โชคดีที่กระเป๋าสตางค์นั้น ข้าพจ้าถือแน่นอยู่ในมือ

สิ่งที่เป็นห่วง หลังจากเห็นสภาพบาดแผลกระเป๋าก็คือ

โทรศัพท์มือถือ สายสมอลทอล์ค (จะขาดป่าววะ)

และหนังสือที่อยู่ข้างใน

ของสำคัญของข้าพเจ้าก็มีเพียงเท่านี้แล



โทรศัพท์นั้น

แม้เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าจะมิได้อินังขังขอบกับมันสักเท่าไหร่

แต่มันก็จำเป็น

คนรัก พ่อ แม่ จะเป็นห่วงแน่นอน

หากไม่สามารถติดต่อข้าพเจ้าได้

และที่สำคัญ

ของชิ้นนี้ เป็นอีกชิ้นที่คนรักตั้งใจเลือกและซื้อให้

ซื้อพร้อมกันกับของเขา

ราคาอาจไม่แพงมาก

แต่ก็มีค่าสำหรับข้าพเจ้ามาก



โทรศัพท์ยังอยู่...



สมอลทอล์ค ยังอยู่ ไม่ขาด ไม่วิ่น

และหนังสือ ยังนอนนิ่ง ไม่มีแม้รอยขีดข่วน



ข้าพเจ้านึกขอบคุณใครหรือสิ่งใดก็ตาม

ที่คุ้มครองข้าพเจ้า

เขาคงช่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว



สิ่งเดียวที่เสียไปจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ

กระเป๋าใบโปรด

มันเป็นกระเป๋าใบแรกที่ข้าพเจ้ากลั้นใจซื้อ

ซื้อตั้งแต่ตอนเรียนจบ

เอาไว้ไปทำงาน

หลังจากที่รู้ว่าได้งานที่ติลลิกีแล้ว

และติลลิกีก็มีกฎห้ามใช้ของก็อบ



ปกติข้าพเจ้าก็ใช้แต่กระเป๋าผ้า

ที่ซื้อจากองค์กรต่างๆ

หรือไม่ก็ที่ได้รับแจกฟรี

แต่จะสะพายกระเป๋าผ้าไปทำงาน

ก็ดูจะชิลไป

ต้องซื้อที่ดูดีบ้างแล้วสินะ

ข้าพเจ้าก็เลือกซื้อกระเป๋าที่มียี่ห้อ

ซื้อของแท้




กระเป๋ายี่ห้อ ซีเอ็ด

อืม ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์นั่นแหละ



อายุของมัน เท่าที่อยู่กับข้าพเจ้ามา

ก็สองปีกว่าแล้วนะ

แต่มันยังหล่ออยู่มาก

สภาพดีเหมือนเดิม

แค่สีเพี้ยนไปนิดหน่อย

มันกันน้ำได้ด้วย

ยิ่งหน้าฝนอย่างนี้

ข้าพเจ้ายิ่งรักมัน

มันไม่เคยหักหลังข้าพเจ้าเลย

มันปกป้องและดูแลของรักของข้าพเจ้าทุกชิ้น



ข้าพเจ้าใช้คำว่ากลั้นใจซื้อ

เพราะตอนที่ซื้อนั้น

ข้าพเจ้ายังยากจนอยู่มาก ยังไม่มีงานทำ เพิ่งเรียนจบหมาดๆ

และข้าพเจ้าหาใช่ผู้นิยมของแพง

แม้จะมีเงิน ก็ไม่คิดซื้อ

กระเป๋าใบนี้

เป็นชิ้นที่ราคาแพงที่สุดตั้งแต่เคยซื้อของพวกนี้มา

หมายถึง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อะไรเทือกนั้น

มันราคาแค่แปดร้อยกว่าบาทเท่านั้น

แต่ตอนซื้อ

ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันแพงหูฉี่นัก

แต่ด้วยความถูกชะตากับมันเหลือเกิน

ก็เลยจูงมันออกมาด้วยราคาเต็ม

เพราะบัตรสมาชิก ใช้ลดราคาแค่เฉพาะหนังสือเท่านั้น

ไม่รวมผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายในร้าน

ดูสิ ดูซีเอ็ดทำสิ

หึๆ




ข้าพเจ้าคิดว่าจะมีมันอยู่ข้างกายไปได้อีกนาน

และไม่เคยคิดว่าเราจะต้องจากกันอย่างกะทันหันเช่นนี้

เหมือนใครสักคนตายจากเราไป

ด้วยอุบัติเหตุ

มันช็อค

เสียใจ

เสียดาย




ข้าพเจ้าพยายามนึกว่า

จังหวะไหนกันที่มันกรีดกระเป๋าได้ยับเยินขนาดนี้

ใช่ นานอยู่เหมือนกันกว่าข้าพเจ้าจะหลุดจากจุดแออัดออกมาได้

แต่มันก็ไม่ได้แออัดตลอดทางนะ

และผู้คนก็เดินสวนไปมา

ไม่ใช่การเดินทางเดียว

ผู้คนจากอีกฝั่ง ก็ต้องเห็นการกระทำของมันบ้างสิ

และมือมันก็เบาเหลือเกิน

กระเป๋านี้ทำด้วยผ้าหนาใช่เล่น

มันกรีดซะขาดไปสองชั้น

และกรีดอย่างยาวไปสองรอย



ตามปกติ ข้าพเจ้าจะเดินกอดกระเป๋าใบนี้

เพราะรำคาญคนที่จะเดินมาชน มาสะกิดมันหนึ่ง

และเพราะกลัวเหตุการณ์เช่นนี้อีกหนึ่ง

แต่วันนี้ ของหนักเต็มสองมือ

ข้าพเจ้าจึงไม่อาจปกป้องมันไว้ได้

ไม่แม้กระทั่งจะรู้ได้ว่า

มันถูกทำร้ายเมื่อไหร่กัน

แย่จริงๆ



ข้าพเจ้าเดินกลับห้องด้วยความเศร้า

สงสารกระเป๋า

กระเป๋าที่รัก




R.I.P นะ



ด้วยรัก

แพรวา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น