25 เม.ย. 2556

Three Hundreds No.5..."คำสารภาพ"

ห่างหายจากการอัพเดทภารกิจนี้ไปนาน
แต่ก็หาได้ห่างหายจากการอ่านหนังสือแต่อย่างใดไม่
ยิ่งช่วงนี้
ช่วงที่ชีวิตกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
ทั้งเรื่องงานและชีวิตความเป็นอยู่
จากที่เคยอยู่เป็นคู่ มีรูมเมท
ตอนนี้ก็ต้องอยู่คนเดียว อยู่ลำพัง
ยิ่งทำให้ต้องมีเพื่อนมาช่วยเติมเต็มความโหวงเหวงในหัวใจ
มันแน่นอนอยู่แล้ว
การที่ใครสักคนหายไปจากชีวิต
หมายถึง หายไปจากการพบปะกันอยู่ตลอดๆ
วันละหลายๆ ชั่วโมง
แล้ววันหนึ่งก็ต้องพบว่า เราไม่มีเขาแล้ว
ไม่มีช่วงเวลานั้นแล้ว
คงยากที่จะทำเหมือนดั่งว่า เราไม่เป็นอะไร
เอาล่ะ เข้าเรื่องหนังสือกันดีกว่า
ยิ่งง่วงๆ อยู่ด้วย
เพราะขณะนี้เป็นเวลา 23.04 . ของวันที่ 24 เมษายน 2556 แล้ว
เลยเวลานอนของเด็กอนามัยมาพอสมควร
และตาเริ่มจะปิดไปเสียคาคอมอยู่รอมร่อ ฮ่าๆ
หนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าอ่านตอนก่อนเข้าไปปฏิบัติธรรมที่วัด
ในช่วงสงกรานต์
ช่างเลือกช่วงเวลาได้เหมาะเจาะยิ่งนัก
เพราะหากไม่ได้ไปสงบจิตสงบใจเช่นนั้น
ข้าพเจ้าก็คงได้นั่งจมดิ่งอยู่ในก้อนความคิด
ที่ "คำสารภาพ” โยนมาให้ข้าพเจ้า



 โปรยปกหน้าบอกไว้ว่า
เป็นสุดยอดนวนิยายสืบสวนญี่ปุ่น
 ข้าพเจ้าหยิบมา ด้วยหวังว่าจะได้อ่านนิยายอารมณ์ประมาณ
 “Lincorn Lawyer (ชื่อไทยว่า "แผนพิพากษา” มั้ง ถ้าจำไม่ผิด) หรือ
ยอดตุลาการราชวงศ์ซ่ง
 คินดะอิจิ
 หรือแบบเซ็ทรหัสลับดาวินชี
แต่ข้าพเจ้าลืมนึกไป
 ลืมไปจริงๆ ทั้งที่เค้าก็เขียนอยู่ทนโท่ว่า
“...ญี่ปุ่น”
 

เพราะฉะนั้น ทั้งเนื้อเรื่อง ปมเหตุการณ์
ความคิดของตัวละคร
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นโดยแท้เสียด้วย

นั่นเป็นเพียงความเห็นของข้าพเจ้า
เป็นเพียงมุมมองของข้าพเจ้าเท่านั้น
ซึ่งใครอาจจะเห็นต่างเช่นไรก็ได้
ไม่ว่ากัน
ความเป็นญี่ปุ่นในแง่มุมวรรณกรรม
สำหรับข้าพเจ้า
มันคือ ความซื่อสัตย์ต่อความบิดเบี้ยวและวิปริตของมนุษย์
ความเก็บกด ซับซ้อน และยากแก่การทำความเข้าใจ
และทำให้การคาดเดา..แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เสน่ห์ของวรรณกรรมญี่ปุ่น ข้าพเจ้าว่ามันอยู่ตรงนี้แหละ
มันจุก เจ็บลึก และสามารถทำให้เรางงงวย
และหม่นหมอง หดหู่ได้อย่างน่าประหลาด
เป็นระยะเวลาหลายๆ วัน
เล่มนี้ก็เช่นกัน
อย่างที่บอก หากข้าพเจ้ามิได้เข้าวัดเสียก่อน
ก็คงได้มีอะไรมาครุ่นคิดอยู่ในหัว
มีบางสิ่งมากระทบอยู่ในใจ
แท้แล้ว ข้าพเจ้าก็แอบเถียงข้อความบนหน้าปกอยู่บ้าง
นี่มันไม่เห็นจะเป็นการสืบสวนตรงไหนเลย
มันออกจะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาเสียขนาดนี้
เล่นตีแผ่เบื้องลึกเบื้องหลังกันตั้งแต่ปมสมัยเด็กไม่ประสีประสา
จนโตขึ้นมา
ต้องยอมรับจริงๆ ว่า ผู้เขียนสร้างตัวละครได้มีชีวิตจริงๆ ทุกตัว
ย้ำ!! ว่าทุกตัว
กระนั้น ข้าพเจ้าก็ยังสงสัยตัวเองอยู่ว่า
ทั้งที่เนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร
และผู้เขียนก็เปิดเผย ไม่มีเงื่อนอะไรทิ้งไว้ให้ชวนสงสัยหรือหลอกล่อให้เราฉงนฉงายต่อไปเอง
ทั้งที่เขาไม่ได้ทำกับเราเหมือนที่มุราคามิทำ
ทั้งที่ก็ไม่ใช่อารมณ์ "รักแสร้ง แรงเสน่หา”
แต่ทำไม มันมีอะไรค้างๆ อยู่ในหัวชอบกล
บางสิ่งบางอย่างที่ค่อนข้างน่ากลัว
ทั้งที่เราก็บอกตัวเองอยู่เสมอว่า มันเป็นธรรมดาของคน
จิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้หยั่งถึง
และคดเคี้ยวยิ่งกว่าเถาวัลย์ที่เลี้ยวลด
กระนั้น ยามเมื่อมันถูกตีแผ่ ถูกควักออกมาให้เห็นกันสดๆ
มันกลับน่าสยอง น่าสะอิดสะเอือน เสียนี่กระไร
นี่ขนาดหมวดหมู่เป็นนวนิยายนะ
ถ้าเป็นสารคดีจะสยองกันขนาดไหน
มนุษย์นี่หนอ...
ขอทุกท่านไปหาอ่านกันเองเถิด
อ่านง่าย สนุก และชวนให้ติดตาม
บางท่านอาจได้อ่านรวดเดียวจบ
เพราะวางไม่ลง
(นั่น แอบมีโฆษณาให้อมรินทร์เสียด้วย ฮ่าๆๆ)


.. ข้าพเจ้าบันทึกข้อความไว้หน้าหลังสุดของหนังสือเล่มนี้ว่า
 
-        อธิบายคำว่า "ทุกคนมีเบื้องลึกและเหตุผล (ที่เข้าท่า) ของตัวเอง” ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมที่สุด
-        เราสามารถเข้าใจตัวละครได้ทุกตัว แม้ว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์อื่น เราจะไม่มีวันเข้าใจเขาได้เลยก็ตาม!!
-        มีคนที่เกิดมาพร้อมกับความเลวร้ายจริงๆ แต่ไม่มีใครเกิดมาพร้อมจิตใจที่เลวร้าย..โดยสมบูรณ์
-        ญี่ปุ่นจริงๆ
 
ด้วยรักแม้ไม่สนิท
แพรวา
บันทึกเมื่อ 24 เมษายน 2556
23.29 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น