29 เม.ย. 2556

One by One..Three Hundreds No.8.."ขโมยให้ได้อย่างศิลปิน"...ฮาวทูที่มีศิลปะ!!



นานแล้วเหมือนกัน

ที่ข้าพเจ้าไม่ได้อ่านหนังสือแนว ฮาว ทู

แบบจ๋าๆ ขนาดนี้

อาจเพราะข้าพเจ้าเคยบ้าอ่านหนังสือจำพวกนี้มามากพอสมควรแล้ว

ในช่วงชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆ

ข้าพเจ้าอ่านเกือบหมดทุกเล่มที่วางอยู่บนชั้นหนังสือ

หมวดหมู่พัฒนาตนเอง

ที่หอสมุด มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วิทยาเขตรังสิต

โดยเฉพาะ ช่วงเฮิร์ตหนักๆ

และช่วงที่มีการแข่งอ่านหนังสือ

เพื่อหาสุดยอดนักอ่านประจำมหาวิทยาลัย





ตอนนั้น ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้อ่านหนังสือจำพวกอื่นๆ เช่น เรื่องสั้น หรือนวนิยาย

ที่อ่านก็มีเพียงแนวธรรมะ  ฮาวทู จิตวิทยา

และหลังจากช่วงนั้นมา

ข้าพเจ้าก็เอียนมัน

เพราะตระหนักได้ว่า

แท้แล้ว แก่นก็มีไม่กี่เรื่อง

หนังสือพวกนี้เป็นเพียงการเอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว

มาเล่าใหม่

ซ้ำแล้วซ้ำอีก

เพียงแค่การเล่านั้น ปรากฏในรูปแบบที่แตกต่างไป

ให้ดูใหม่ ก็เท่านั้น

ทั้งที่จริงๆ แล้ว

ไม่มีอะไรใหม่

และเราก็สามารถใช้ปัญญาจัดการกับชีวิตตัวเองได้

ซึ่งอันที่จริง

เราทำได้ดีกว่าการเดินตามรอยหนังสือพวกนี้เสียอีก

เพราะไม่มีใครจะรู้จักและเข้าใจสถานการณ์ชีวิตของเรา

ได้ดีเท่าเรา




แต่ปัญหาก็อยู่ที่ว่า

ณ จุดๆ นั้น

เราจะข้ามความมืดบอดต่างๆ และใช้ปัญญาที่มี

จัดการเรื่องราวต่างๆ ได้เองหรือไม่





เล่มนี้

ข้าพเจ้าเห็นว่า ขึ้นแท่น Best Seller มานานแล้ว

แต่ไม่เคยคิดจะซื้อมาอ่าน

หากแต่ เมื่อคนรักซื้อมา

ก็หรอยซะ ฮ่าๆๆ





แต่อ่านแล้ว ข้าพเจ้าชอบนะ



ชอบเพราะเขาไม่ได้เขียนในฐานะที่วางตัวเองประหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ

(ทั้งที่เขาก็จัดได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ)

แล้วมาจู้จี้สอนผู้อื่น

เขาทำให้รู้สึกได้จริงๆ ดั่งที่เขาเขียนไว้ตั้งแต่หน้าแรกๆ ว่า

หนังสือเล่มนี้ ตัวเขาเขียนถึงตัวเองในสมัยก่อน

มันเหมือนการบอกเล่าอย่างเป็นอันเอง

โดยไม่แสดงออกซึ่งการอวดรู้

หรือการวางภูมิ สร้างมาด






และที่สำคัญ

สิ่งที่เขาแสดงออกมา

ก็กลั่นออกมา

เค้นมาแต่แก่น

ไม่มีกระพี้ ไม่มีน้ำ

ไม่ท่วมทุ่ง

และผักบุ้งไม่เน่า






กอปรกับการออกแบบภาพประกอบและเนื้อหาข้างใน

ก็ทำได้อย่างลงตัว

สมกับชื่อหนังสือ








"ขโมยให้ได้อย่างศิลปิน"

เขียนฮาวทูได้อย่างมีศิลปะ







ไลค์


แพรวา บุตรี

22.44 น.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น