แนวความคิด
เก่าไปแล้ว สำหรับปัจจุบันกาล
แต่หากลองสมมติตัวเองว่าไปเกิดและมีชีวิต
อยู่ในช่วงที่คุณจำลองเขียนเขียนเรื่องสั้นพวกนี้
การได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้
จะเป็นอะไรที่พิสดาร
และกระตุ้นให้เราได้ขบคิดสิ่งต่างๆ
รอบตัว
เขาจะกลายเป็นไอดอลของข้าพเจ้าด้วยในทันที
และอันที่จริง
แม้จะอ่านในตอนนี้
(ซึ่งถือว่าช้ามาก)
ข้าพเจ้าก็ยังอยากจะยกเขาไว้เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ชื่นชอบ
แม้ไม่ได้ซีไรต์ เขาก็ได้ใจคนอ่านไปเป็นกระบุงแล้วกระมัง
ข้าพเจ้าชอบเรื่อง
"คาเฟ่คนใบ้”
ดั่งที่ใครหลายๆ
คนชื่นชอบ
ยิ่งได้อ่านเบื้องลึก ที่มาที่ไป ประสบการณ์ที่พบเจอ
กับทั้งระยะเวลาสำหรับบ่มเพาะความคิดให้งอกเงยเติบโต
และกลั่นออกมาเป็นเรื่องสั้นอบอุ่นชวนฝันได้
มันเป็นสิ่งน่าทึ่งอยู่มากโขเลยทีเดียว
ข้าพเจ้ารู้สึกจุกและเผลอกลั้นหายใจไปชั่วครู่
หลังจากอ่านเรื่อง "สนามหลวง"
มันเศร้า เศร้ามากเกินไป
บางที ข้าพเจ้าก็อยากเป็นคนยุคก่อนๆ
เพื่อจะได้อ่านเรื่องสั้นเหล่านี้
อย่างมีอรรถรสและได้แง่คิดแปลกใหม่
หลายประเด็นให้ขบคิดและถกเถียง
สนุกสนานกับการได้แลกเปลี่ยนไอเดียกับใครสักคนหรือหลายคน
หากเล่มนี้ ถูกพิมพ์ออกมา (ครั้งแรก) ในสมัยปัจจุบัน
ที่มีการวิจารณ์วรรณกรรมกันอย่างแพร่หลาย
คงเพลิดเพลินขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
ข้าพเจ้าทิ้งระยะห่างในการอ่านระหว่างบท
(เรื่อง)
ราวๆ
2
ถึง
3
นาที
เพื่อให้ความคิดได้แล่นไปสักชั่วครู่
ให้ตัวเองได้ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
และเตรียมพร้อมสำหรับตั้งรับแรงกระแทกจากการอ่านเรื่องต่อไป
พิมพ์ผิดเยอะมาก
(จริงๆ)
แต่น่าแปลกที่ความผิดพลาดเหล่านั้น
ทำลายเสน่ห์ของแต่ละเรื่องได้ไม่มากนัก
ทั้งที่หากเป็นเล่มอื่น
คงถูกวางทิ้งไว้เสียแต่
10
หน้าแรกแล้ว
ชอบมาก
ด้วยรัก
แม้ไม่สนิท
แพรวา
บุตรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น