29 เม.ย. 2556

One by One..Three Hundreds No.10.."เสน่ห์จำลอง..สีของหมา"






แนวความคิด เก่าไปแล้ว สำหรับปัจจุบันกาล

แต่หากลองสมมติตัวเองว่าไปเกิดและมีชีวิต

อยู่ในช่วงที่คุณจำลองเขียนเขียนเรื่องสั้นพวกนี้

การได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้

จะเป็นอะไรที่พิสดาร และกระตุ้นให้เราได้ขบคิดสิ่งต่างๆ รอบตัว

เขาจะกลายเป็นไอดอลของข้าพเจ้าด้วยในทันที

และอันที่จริง

แม้จะอ่านในตอนนี้

(ซึ่งถือว่าช้ามาก)

ข้าพเจ้าก็ยังอยากจะยกเขาไว้เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ชื่นชอบ

แม้ไม่ได้ซีไรต์ เขาก็ได้ใจคนอ่านไปเป็นกระบุงแล้วกระมัง






ข้าพเจ้าชอบเรื่อง "คาเฟ่คนใบ้”

ดั่งที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบ

ยิ่งได้อ่านเบื้องลึก ที่มาที่ไป ประสบการณ์ที่พบเจอ 

กับทั้งระยะเวลาสำหรับบ่มเพาะความคิดให้งอกเงยเติบโต

และกลั่นออกมาเป็นเรื่องสั้นอบอุ่นชวนฝันได้

มันเป็นสิ่งน่าทึ่งอยู่มากโขเลยทีเดียว




ข้าพเจ้ารู้สึกจุกและเผลอกลั้นหายใจไปชั่วครู่

หลังจากอ่านเรื่อง "สนามหลวง"

มันเศร้า เศร้ามากเกินไป




บางที ข้าพเจ้าก็อยากเป็นคนยุคก่อนๆ

เพื่อจะได้อ่านเรื่องสั้นเหล่านี้

อย่างมีอรรถรสและได้แง่คิดแปลกใหม่



หลายประเด็นให้ขบคิดและถกเถียง

สนุกสนานกับการได้แลกเปลี่ยนไอเดียกับใครสักคนหรือหลายคน

หากเล่มนี้ ถูกพิมพ์ออกมา (ครั้งแรก) ในสมัยปัจจุบัน 

ที่มีการวิจารณ์วรรณกรรมกันอย่างแพร่หลาย

คงเพลิดเพลินขึ้นเป็นหลายเท่าตัว





ข้าพเจ้าทิ้งระยะห่างในการอ่านระหว่างบท (เรื่อง)

ราวๆ 2 ถึง 3 นาที เพื่อให้ความคิดได้แล่นไปสักชั่วครู่

ให้ตัวเองได้ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

และเตรียมพร้อมสำหรับตั้งรับแรงกระแทกจากการอ่านเรื่องต่อไป




พิมพ์ผิดเยอะมาก (จริงๆ)

แต่น่าแปลกที่ความผิดพลาดเหล่านั้น

ทำลายเสน่ห์ของแต่ละเรื่องได้ไม่มากนัก

ทั้งที่หากเป็นเล่มอื่น

คงถูกวางทิ้งไว้เสียแต่ 10 หน้าแรกแล้ว





ชอบมาก




ด้วยรัก แม้ไม่สนิท

แพรวา บุตรี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น