ขอฉันเป็นคนอุ่นของเธอ

ร้ายเหลือเกิน เธอทำเป็นไม่สนใคร
แต่ลึกลึก เธอนั้นช่างบอบบาง
เมื่อฉัน..ได้บังเอิญเห็นต่าง
ภาพที่ใครใคร ไม่มีทางได้เจอ
เห็นเธอเจ็บ ไม่เคยไม่เจ็บพร้อมเธอ
อยากจะขอ ซับน้ำตาที่ไหล
ก่อนมัน..จะไหลลงไปที่ใจ
เพราะฉันมั่นใจ อยากจะทำให้เธอ
ให้โอกาสฉัน..ได้ทำเพื่อเธอ
อยากเป็นที่พัก ให้เธอนั้นได้มาซบไหล่
จะแบ่งปันเรื่องราวที่เจอ
ไม่ให้เธอเหน็บหนาวต่อไป
ขอฉันเป็นคนอุ่นของเธอ
ทุกเส้นทาง จากนี้จะมีเพื่อนเดิน
ปล่อยให้ฉัน ได้รักและห่วงใย
ความรัก.. ไม่ขออะไรมากมาย
แค่ได้ดูแล คนที่รักเท่านั้น..
ให้โอกาสฉัน..ได้ทำเพื่อเธอ
อยากเป็นที่พัก ให้เธอนั้นได้มาซบไหล่
จะแบ่งปันเรื่องราวที่เจอ
ไม่ให้เธอเหน็บหนาวต่อไป
ขอฉันเป็นคนอุ่นของเธอ
ให้โอกาสฉัน..ได้ทำเพื่อเธอ
อยากเป็นที่พัก ให้เธอนั้นได้มาซบไหล่
จะแบ่งปันเรื่องราวที่เจอ
ไม่ให้เธอเหน็บหนาวต่อไป
ขอฉันเป็นคนอุ่นของเธอ
จะแบ่งปันเรื่องราวที่เจอ
ไม่ให้เธอเหน็บหนาวในใจ
ขอฉันเป็นคนอุ่นของเธอ

หลายวันที่ผ่านมา

เรื่องราวที่อิรุงตุงนัง กลับมาพัวพันให้ยิ่งปวดหัวมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าเมื่อวิเคราะห์ถึงเนื้อแท้และแก่นสาร

ตรึกตรองหาสาเหตุ

ก็ไม่ได้พบว่า มีสาระหรือแก่นสารอันใด

หรือสรุปง่ายๆก็คือ มันก็เป็นหนึ่งในเรื่องไร้สาระ

ที่ก่อความยุ่งยากให้แก่ชีวิต

ต้องแก้ปมปัญหา แม้ว่าปัญหาเหล่านี้

จะไม่ได้มีปมอันใด

ที่ยิ่งใหญ่และเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต

จนต้องมาปวดหัวแก้มันออกเลยก็ตาม

สภาวะเช่นนี้ เชื่อว่าใครๆก็ต้องเคยพบเจอ

เคยผ่านมาเป็นประสบการณ์ชีวิต

ไม่มากก็น้อย

ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว

ทั้งก่อเอง และผู้อื่นก่อให้

ความจริง มันก็ไม่ได้เป็นประสบการณ์ตรงของฉันหรอก

ฉันไม่ได้เป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง

ไม่ใช่ผู้ที่ต้องครุ่นคิด หรือหาทางแก้ปมเหล่านั้น

หรือแม้กระทั่ง

ฉันอาจจะแค่...รับฟัง

และช่วยคิดแบบพอเป็นพิธี

หากแต่ ฉันกลับเจ็บปวด

บางอารมณ์ก็หงุดหงิด ไม่พอใจ

จนบางเวลาก็พลอยรำคาญและชิงชัง

ผู้ที่ก่อเรื่องไร้สาระเหล่านี้ขึ้น

แต่สุดท้ายก็ต้องทำใจยอมรับ

คนเรามีเหตุผลและระดับการใช้เหตุผล

ในการแก้ปัญหาหรือตอบโต้สิ่งต่างๆ

ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต..ไม่เท่ากัน

คนเรียนเยอะ ไม่ได้หมายความว่าใช้เหตุผลเยอะ

คนที่ภายนอกดูมีความรู้

ก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้เหล่านั้น

จะช่วยให้เขาหูตาสว่างและใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข

และในบางครั้ง เปลือกนอกที่ดูน่าเชื่อถือเหล่านั้น

ก็ยังเผื่อแผ่เอาความโง่งมที่ซ่อนอยู่ภายใน

ไปยังคนรอบข้างได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

เขาอาจรู้สึกว่าเป็นผู้ถูกกระทำก่อน

และการตอบโต้เช่นนี้

ก็ประมาณว่า..ขอเอาคืนบ้างเถอะ

โดยใช้ข้ออ้างไร้สาระหลอกตัวเองไปวันๆ

ทำให้ตัวเองดูดีขึ้น

เพราะคำว่าแก้แค้น

มันแลดูทำให้ผู้นั้น กลายเป็นคนใจร้ายใจดำไปในบัดดล

ในสังคมชาวพุทธที่รักความสงบ

และมุ่งส่งเสริมหลักการให้อภัย

และแก้ไขปัญหา โดยกลับมามองที่ตนเอง

ฉันเคยบวชชีอยู่ระยะเวลาหนึ่ง

คำสอนของพระอาจารย์ที่ฉันไม่เคยลืม

และทำให้ฉันสงบลงได้ในทุกครั้งที่ไม่พอใจใคร

"แก้ที่คนอื่นไม่ได้..ก็แก้ที่ตัวเรา"

เมื่อเราสงบ ปัญญาเราจะสว่าง

จากนั้น ฉันก็จะแผ่เมตตา

แล้วคิดซะว่า..ปล่อยเขาไปเถอะ

อยากทำอะไรก็ทำ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า

ฉันจะยอมให้ใครมารังแก

หรือเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายๆ

ไม่มีใคร มีสิทธิที่จะเบียดเบียนผู้อื่น

ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา

ฉันจะปกป้องตัวเอง

และที่สำคัญ..ฉันจะปกป้องหัวใจของฉัน

คนสำคัญในชีวิตฉัน มีแค่ไม่กี่คน

และใครก็อย่าหวังที่จะรังแก

แก้วตาดวงใจของฉันได้

รักแท้คือการอยู่เคียงข้าง

และดูแลซึ่งกันและกัน

ฉันก็ไม่อาจพูดได้ว่า..ฉันมีรักแท้จริงหรือไม่

แต่อย่างน้อย..เมื่อฉันบอกว่ารักใคร

ฉันก็จะไม่มีวันทำร้ายคนๆนั้น

ไม่ว่าเวลา หรือสถานการณ์ใดๆก็ตาม

อาจมีบ้างที่ทะเลาะเบาะแว้ง หรือขัดแย้ง

ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามธรรมชาติของสภาวะอารมณ์

ที่มีในมนุษย์ทุกคน

ถ้าฉันพูดว่ารักใคร

แม้ว่าในวันนี้ เราจะอยู่ห่างกันแสนไกล

ด้วยสถานะหรือความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

เขาอาจไม่ใช่คนที่อยู่เคียงข้างฉันในปัจจุบันกาล

แต่เขาก็จะเป็นกัลยาณมิตรที่ได้พบพาน

และความรักจากฉัน ก็ยังคงมีให้เขาเสมอ

ไม่มีวันทำร้ายกัน

ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ

คนอุ่นของเธอ