27 ก.พ. 2557

โจรกระชากกระเป๋า กับเรื่องจริงที่ไม่อิงละครไม่ได้


เมื่อวาน (26 กุมภาพันธ์ 2557) ราวๆ หกโมงเย็น

สองศรีเพื่อนรักกำลังขับรถตระเวนหาของกิน

ในย่านตัวเมืองชลบุรี

น. นามสมมติ ชะลอรถเพื่อเตรียมจอดดงร้านก๋วยเตี๋ยว

พลันเสียงตะโกนโหวกเหวกก็ดังขึ้น

ต้นเสียงคือหญิงนางหนึ่ง ผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ซึ่งเราเพิ่งแซงมาเมื่อครู่

นางหน้าตาตื่นมาก ตะโกนพูดซ้ำๆ อยู่ไม่กี่คำ

"ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย กระชากกระเป๋าหนู"

อนงค์สองนางหน้าตื่น หันมองกันเลิกลั่ก

เพราะไอ้โจรที่ว่านั่น

คือมอเตอร์ไซค์คันที่กำลังขับตีคู่อยู่ทางด้านซ้ายของฟอร์ด เฟียสต้า

นามว่า น้องขวัญ (ชื่อรถ ชื่อจริงของนางคือ ขวัญชีวิต)

เต็มๆ จะๆ คาตา

แล้วไงล่ะทีนี้

ในรถแม่มชุลมุนไม่แพ้ด้านนอกแต่อย่างใด

เพราะสติสตังค์ของสองนางกระเจิงไปแล้วจ้า



ฉากแรก ถ้าเป็นในละคร

เฟียสต้าน้อยคงปาดหน้ามัน

มอ' ไซค์ ล้ม

อีนางที่นั่งข้างหน้า (กรูนี่เอง) อาจปลดเข็มขัดนิรภัย

วิ่งลงไปจับมัน

หรือมีพลเมืองดีมาช่วยมะรุมมะตุ้ม

จับได้

รถไม่เป็นไร

หรืออาจเป็นแต่วีรสตรีผู้กล้า ซึ่งรักความยุติธรรมยิ่งชีพคงหาได้แคร์ไม่


ทว่า นี่มันชีวิตจริงโว้ยยยย



มอ'ไซค์แม่มปาดซ้ายปาดขวาอย่างชิล

ไม่ได้บิดซิ่งด้วยนะเออ

รถเยอะมากเพราะเป็นย่านตลาด



หนึ่งคือ น. ไม่กล้าชน

เพราะมันจะคุ้มไหม ชนสกัดมัน แลกกระเป๋าหนึ่งใบ กับรถที่เพิ่งถอยมาต้องเป็นราคี

(ถึงจะมีประกันก็เถอะ ความยุ่งยากตามมา และยังต้องเสียเงินค่าเคลม

ซึ่งเป็นส่วน exception ที่ประกันอาจไม่รับผิดชอบอีกด้วย)




สอง ชนแล้วมันจะแค่ล้มเหมือนในละคร

หรือล้มแล้วจะโดนเหยียบซ้ำตายคาที่ เพราะรถในชลบุรีนี่ก็สุดยอดจะชุลมุน



สาม ชนมัน เบรก คันหลังตามมาสอยตูด น้องขวัญคงเยินทั้งหน้าและหลังถ้าให้เดา



เพราะฉะนั้น สองอนงค์จึงเห็นพ้องต้องตรงกันโดยมิได้นัดหมาย

อย่าชนมันเลย ละครเกินไป

(แต่เราก็ยังไม่หยุดสติแตก โดยเฉพาะกรูเนี่ย)

ทำไงดีๆ ทำไงดี

เหมือนจะไม่มีใครสนใจเสียด้วย

รถราก็ขับกันปกติ คนก็มองบ้าง เพราะเจ้าทรัพย์ยังบิดมอเตอร์ไซค์ตาม

และปากก็ยังตะโกน

"ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วย กระเป๋าหนู"




น. จึงขับตามไปเรื่อยๆ

จ. ก็โหวกเหวกๆ เสียวแหลมตามประสา

อยู่นั่นๆ ทางนั้น ทางโน้น




ทั้ง น. และ จ. ต่างก็พร่ำพูดว่า

ต้องทำยังไงเนี่ย

ต้องทำอะไร

โทรหาตำรวจ เออ โทรแจ้งตำรวจ

แล้วจ. ก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมา

โทรหาตำรวจ

เบอร์ไรวะ

191 แวบขึ้นมาในหัว

แต่ไม่มีความเชื่อมั่นเลย

191 จริงเหรอ ช่วยเราได้จริงป่าววะ

แต่ก็นะ ไม่มีทางอื่นใดอีกแล้ว

กดโทรศัพท์ มือสั่น เสียงตื่นเต้น

ไม่มีคนรับ

นั่นไง กูว่าแล้ว 191 แม่มไม่มีจริงสินะ

(ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้ใช้บริการเบอร์นี้สักที

และมีแต่เรื่องเล่าไม่ดีเข้าหูมาตลอด

เขาไม่สนใจหรอก

เขาก็แกล้งรับเรื่องไว้ แล้วก็เงียบหายเหมือนเดิม บลาๆๆ)

เอาใหม่ ให้โอกาสตำรวจไทยอีกรอบ

กดไปอีกครั้ง

มีคนรับ

"ฮัลโหล คุณตำรวจคะ แจ้งเหตุ มีคนกระชากกระเป๋าค่ะ" เสียงตื่นเต้น รัวคำพูดสุดๆ

"ที่ไหนครับ" เสียงใจเย็น พยายามให้เราสงบสติ

"ชลบุรีค่ะ" ตอบได้แค่นั้น แล้วก็นึกได้ว่า ชิบหายละ

รู้แค่ชลบุรี แต่นี่มันตรงไหนของชลบุรีล่ะวะเนี่ย

หันไปถาม น.

"นี่มันตรงไหนอ่ะ"

น. ก็ไม่รู้ เพราะเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน

และขับตามมอเตอร์ไซค์คันนั้นซิกแซกมาเรื่อยๆ

เข้าตรอกซอกซอยจนมึน

เฮ้ยข้างหน้ามีป้ายชื่อซอย

"ซอยนารถมนตรี 30/16 ค่ะ" จ. อ่านชื่อซอย นาด-มน-ตรี ให้ตำรวจฟัง

คุณตำรวจเริ่มรนตามอีนาง จ. ไปด้วย

"ซอยอะไรนะครับ"

"นารถมนตรี 30/16 ค่ะ นั่นๆ มันอยู่นั่น" ระหว่างอ่านชื่อซอยอีกครั้งก็เห็นโจร

และเห็นเจ้าทุกข์

จอดรถมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าซอยถัดจาก 'นารถมนตรี 30/16' ไปหนึ่งซอย

น. จึงเอารถไปจอดปิดหน้าซอยนั้น

เจ้าทุกข์ขับย้อนไปที่ซอย 30/16 มีกำลังเสริมมาหลายคัน

ทั้งชายหญิง

ชี้โหวกเหวกแจ้งกันว่ามันอยู่ข้างในซอยนั้น

มีการกระจายกำลังค้นหาเข้าไปในซอย

ระหว่างนั้น จ. ก็บรรยายให้คุณตำรวจฟัง

"ตอนนี้มันจอดอยู่ในซอยค่ะ รถมอเตอร์ไซค์ ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน

กระเป๋าที่กระชากสีชมพูใบใหญ่ ใส่หมวกกันน็อก รถไม่มีทะเบียน บลาๆ"

คุณตำรวจรับข้อมูลเบื้องต้นแล้วบอก

"โอเคครับ"

สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไป

จ. หันมามองหน้า น.

ทำตาปริบๆ

"ตำรวจเขาบอกโอเคครับนี่ คือเขาจะมาป่าวอ่ะ"

ไม่มีความมั่นใจในตำรวจไทยโผล่เข้ามาในหัวใจให้ชุ่มชื่นเลยแม้แต่น้อย

โจรเลี้ยวรถกลับไปที่ซอย 30/16 ซึ่งต้นซอยนั้นมีมอเตอร์ไซค์มาจอดหลายคัน

ชาวบ้านมาช่วยกันเยอะแล้ว

สองอนงค์จึงตัดสินใจว่าจะรอตรงนี้ ปิดทางออกของซอยนี้

มันจะได้วกกลับมาหนีทางนี้ไม่ได้

สองซอย คือซอย 30/16 กับซอยนี้เชื่อมกัน



เวลาผ่านไปสักครู่

มอเตอร์ไซค์ขับวนไปมาเข้าออก

เหมือนจะล้มเหลว

เราจึงตัดสินใจขับเข้าซอยไปหามัน

ซึ่งตอนนั้นก็ยังงงๆ ว่า

ถ้าเจอแล้วจะต้องทำยังไงกับมันวะ

จะให้อนงค์นางสองคน รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นไปบู๊ก็ไม่ไหวนะ

เหอๆ

แต่จนแล้วจนรอด ไร้วี่แวว

เราชะลอรถตรงที่เห็นมันจอดมอเตอร์ไซค์

ตรงนั้นมีวงฟุตบอล

มีผู้ชายหลายคนกำลังผ่อนคลายกันอย่างสนุกสนาน

เฮ๊ย เขาไม่เห็นโจรเหรอวะ

นึกได้อีกที

เอ๊า ใครเขาจะไปรู้ว่าไอ้นั่นมันเป็นโจร

คงไม่มีใครสนใจมากกว่า

แล้วเราก็ขับรถวนมาที่ปากซอย 30/16

ไม่มีวี่แววกระเป๋า

และมอเตอร์ไซค์จอดคุยกันหลายคัน

ปรึกษาหารือว่าจะทำยังไงต่อไป

พี่ผู้ชายคนหนึ่งถือวอสื่อสารอยู่ในมือ

และสักพักรถตำรวจก็มา

ยังคงค้นหากันต่อไป

แม้จะเริ่มหมดหวังแล้วก็ตามที

เรา (วงสนทนาต้นซอย) เดากันว่า

มันคงชำนาญมาก

มันขับซิกแซกไปมา โดยไม่ได้บิดเร่งความเร็วเท่าไหร่

ก่อเหตุด้วยรถฟีโน่บั้นท้ายอ้วนๆ

และหายไปในซอยที่พลุกพล่านด้วยผู้คน




มอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง คนขับเป็นผู้ชาย มีแฟนซ้อนท้ายมา

เอ่ยว่า

"แหม่ เสียดายจริงๆ ถ้าบิดตามมันทันนะ จะถีบให้ล้ม"

แล้วต่อด้วย

"พอแฟนผมตะโกนบอกว่ากระชากกระเป๋า ผมก็จะบิดตาม

แต่มันบิดไม่ขึ้นนี่ซี้ บิดแล้วก็อื๊ดอื๊ด ไม่ไปเล้ยยย"

แป่ว -_-"




รถกระบะตำรวจมาจอด สอบถามเพิ่มเติมว่าลักษณะมันเป็นยังไง

โดนกระชากตรงไหน

ตามมาถึงตรงไหน

หายไปตรงไหน

แล้วก็วิเคราะห์กันไปว่ามันน่าไปไหนได้บ้าง




สักพัก เสียงวอในมือพี่ผู้ชายก็ดังขึ้นแว่วๆ

"หมายเลขผู้แจ้งเหตุ 0873636xxx"

แอบตกใจ เฮ้ย เบอร์กรูนี่หว่า

แสดงว่าที่มาช่วยๆ กันนี่

คือคนที่รับแจ้งเหตุจากที่เราโทรไปนั่นหรือ

โอ้วว

ชั่วอึดใจ

โทรศัพท์ จ. ก็ดังขึ้น

เบอร์มือถือ

"สวัสดีครับ ผมเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ คุณที่ถูกกระชากกระเป๋าใช่ไหมครับ"

"อ๋อ ไม่ใช่ค่ะ นี่เป็นผู้โทรแจ้งเหตุค่ะ โจรมันหนีไปแล้วค่ะ"

อันหลังนี้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าล่าสุดแถมให้ด้วย

"เอ่อ งั้น เจ้าทุกข์เขาอยู่แถวนั้นรึเปล่าครับ ขอคุยกับเขาหน่อย"

จ. จึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้เจ้าทุกข์

ราวสิบคนที่มาช่วยกันตามหาโจรกระชากกระเป๋ายังยืนคุยกันอยู่สักพัก

สุดท้ายเมื่อไม่มีหวังแล้ว

ก็แยกย้ายกันไป

เจ้าทุกข์ไป สน. เพื่อลงบันทึกประจำวัน

แต่ตอนจะแยกกันนั้น

เจ้าทุกข์ยิ้มได้บ้างแล้ว

บอกว่า ในกระเป๋าไม่ค่อยมีเงินหรอก

เสียดายบัตร

เงินมีไม่ถึงพัน

ผู้หญิงอีกคนก็ปลอบใจว่า

"ดีแล้วล่ะ ฟาดเคราะห์ไป ดีนะมันไม่ถีบล้มเอา"




สองอนงค์แยกจากมา ยังคุยกันต่อ

ประสบการณ์ครั้งแรก

แล้วก็ถกกันว่า

มันจะมีคนเอารถไปชน ไปขวางโจรอย่างงั้นจริงเปล่าวะ

(อย่างงั้นคืออย่างในละคร)

กระเป๋าใบไม่เท่าไหร่ แลกกับรถที่ต้องซ่อมตั้งกี่พัน

อุบัติเหตุจะยิ่งเกิดบานปลายไปอีกต่างหาก

แต่ก็นะ

จับโจรไม่ได้ คงต้องมีกระเป๋าอีกหลายใบสังเวยให้มันอยู่ดี




ชั่วขณะนั้น

เราทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว และไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไง

ไล่ตามมันไปในขณะที่มองดูรอบข้างไม่ยักเห็นใครใส่ใจ

มันว้าเหว่นะ

ใจมันเริ่มแป้ว

เฮ๊ยยยย มีแค่เรา กับเจ้าทุกข์ตามมันมาเหรอวะ

แล้วจะไปทำอะไรมันได้

เกิดมันมีอาวุธขึ้นมาจะทำยังไง




เจ้าทุกข์ยังบอกเลยว่าไม่กล้าบิดตามเข้าไปในซอย

เพราะก็กลัวเหมือนกัน

แต่ต้องยอมรับว่า

เจ้าทุกข์คนนี้ อึดและแกร่งมาก

เสียงดีไม่มีตก

ตะโกนมาตลอดทาง

บิดตามซอกแซกเข้าซอยไม่ลดละ

สติดีมาก

เรายังเกือบคลาดกับมัน ถ้าไม่เหลือบไปเห็นเจ้าทุกข์คนนี้จอดรถอยู่หน้าซอยเสียก่อน




เราคุยกันเล่นๆ ว่า

ดีนะที่ น. เป็นคนขับ

เพราะให้ จ. มาขับซอกแซกไปมา สวี้ดสว้ายตามผู้ร้ายอย่างนี้

จ. ไม่รอดจริงๆ

สกิลการขับรถของ จ. เน้นเส้นตรง

ขับเร็วเลนขวาตลอด ไม่เน้นเปลี่ยนเลนเท่าไหร่

น. เสริมว่า

เออ ถ้าวิ่งเป็นเส้นตรงเค้าสู้ จ. ไม่ได้

เน้นซอกแซกตามซอยแคบๆ ฮ่าๆๆ





น. บอกอีกว่า

แล้วถ้าเป็นเค้าโทรแจ้งเหตุก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

คงพูดผิดพูดถูก

อ่านหนังสือ  (ชื่อซอย) ไม่เร็วด้วย

เออ ว่าแล้วก็ต้องว่ากันเรื่องชื่อซอย

คือ มันบ้าอะไรต้องไปเข้าซอยอ่านชื่อยากอย่างงั้นด้วยวะ ไอ้โจรนิ

ชื่ออย่างยาว

จ. อ่านว่า นารถมนตรี (ในหัวตอนนั้นเป็นคำนี้จริงๆ)

น. บอกว่า ถ้าเป็น น. คงได้อ่านว่า นา-รด

(จ. แอบหรี่ตา หนักเลยนะนั่น กร๊ากๆ)




เออ เราสองคนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วล่ะสำหรับวันนี้

ฮ่าๆๆ




อนึ่ง สารภาพว่า

จ. เหลือบไปเห็นชื่อซอยจริงๆ ตอนยืนคุยสรุปเหตุการณ์




แว้กกก "เส" หายค่า และเปลี่ยน 'วี' เป็น 'รี' เฉย

แหะๆ

เป็นการอ่านรวบคำด้วยความฉับไวสินะ กร๊ากๆ

สมพอ คุณตำรวจงง





แต่ก็ต้องทึ่งจริงๆ นะ

ที่คุณตำรวจยังเดาได้ว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน

และตามมาในเวลาที่ไม่นาน

คือ ไม่ได้มาตอนจบแบบชาวบ้านเขาม้วนเสื่อเสร็จเตรียมจะกลับกันแล้ว

มาเร็วกว่านั้นหน่อยนึง

และยังโทรมาตามผลว่าเป็นยังไงบ้าง ถึงไหนแล้ว ประมาณนั้น

ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่า

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ตำรวจไทยในสายตาของเรา

ดูดีขึ้นมาเป็นกอง

ตำรวจดีๆ ยังมีอยู่จริง




อนึ่ง ขณะที่เราวกกลับไปที่ตลาดต้นเรื่อง

โซ้ยก๋วยเตี๋ยวด้วยความหิว

เบอร์แปลกก็โทรเข้าเครื่อง จ. อีกครั้ง

"สวัสดีครับ คุณเจ้าทุกข์ที่โดนกระชากกระเป๋าใช่ไหมครับ"

แอบตกใจ คือ มันผ่านเวลามาเป็นชั่วโมงแล้วไง

"อะ เอ่อ ไม่ใช่ค่ะ เป็นผู้แจ้งเหตุค่ะ"

"เอ้าเหรอครับ นี่ผมขับรถออกมาตรงที่เกิดเหตุ"

"คือแยกย้ายกันไปหมดแล้วอ่ะค่ะ จับไม่ได้ เจ้าทุกข์ไปแจ้งความไว้แล้วมั้งคะ"

"อ้าวเหรือครับ"

"ค่ะ แต่เมื่อกี๊มีคุณตำรวจโทรมาแล้วนะคะ มีตำรวจคุยกับเจ้าทุกข์ไปแล้วค่ะ"

"อ่อ ครับๆ"


จ. วางสายแบบงงๆ

นี่คืออะไร

ควันหลงสินะ เอิ้กๆ




จ. แอบตลกตัวเองตอนโทรแจ้งเหตุ

แม้จะบอกข้อมูลได้อย่างครบถ้วนเท่าที่จะบอกได้

เท่าที่สติยังพอมีอยู่บ้าง

แม้จะกระเจิดกระเจิงไปมากแล้ว

และแอบโบ้ยความตลกของตัวเองไปให้ละครไทย

พูดกับ น. ว่า

"ก็ไม่รู้นี่หว่าว่าต้องทำยังไงบ้าง ทำตามสัญชาตญาณ

ในละครแม่ม พอมีคนโทรแจ้งเหตุ ก็จะแค่คนๆ นั้นกดโทรศัพท์

อย่างมากก็พูดว่า "คุณตำรวจหรอคะ" พอให้เป็นสัญลักษณ์ว่ามีคนโทรแจ้งตำรวจแล้วนะเว้ย

แล้วก็ตัดไปฉากบู๊ไล่ล่าโจร

คือ คราวหลังเนี่ย ช่วยสร้างละครที่มีฉากตอนแจ้งเหตุหน่อยได้ไหมคะ

จะได้พอมีภาพบ้างว่าต้องทำยังไง ต้องพูดอะไรบ้าง"

แหม่...แถไปได้ ฮ่าๆๆ



เออ อีกอย่างนะ

ในละครแม่ม

มีพระเอกหรือนางเอกคนเดียวก็จับโจรได้ละ

(บางทีโจรมาเป็นฝูงก็ชนะ โจรเดี้ยงตลอด)

นี่ยกกันมาเป็นสิบ

ยังจับโจรคนเดียวไม่ได้เล้ยยย

พระเอกนางเอกในละครไทยมันเก่งกันจังวะ

ฮาาาาาา




น. ตั้งประเด็นทิ้งท้าย

เออ แล้วเราจะไปเผชิญหน้ากับโจรได้ยังไง

ถ้าเราเคยเรียนมวย เรียนเทควันโดมา

จะทำให้เรากล้าไปสู้กับมันมากกว่านี้ไหมนะ

ตอนที่เห็นมันอยู่ในซอย

ความคิดแรกเลยคือกลัว

ไม่กล้าขับเข้าไปเผชิญหน้ากับมัน

(อ่าว เราก็นึกว่าเป็นแผน จะอยู่สกัดมันตรงต้นซอยซะอีก

น. บอกว่านั่นเป็นความคิดทีหลัง

แรกสุดเลยคือกลัว ฮ่าๆๆ)




เออ อันนี้ก็ไม่รู้แฮะ

จ. เกิดมาเป็นกุลสตรีไทย

ไม่เคยบู๊กับใครซะด้วย

กร๊ากๆ




เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

อย่าวางกระเป๋าไว้หน้ารถ

โจรจ้องอยู่

และ

พึงมีสติอยู่กับตัวทุกเมื่อ

แม้เมื่อยามสถานการณ์บีบบังคับ

ก็ต้องเหลือสติให้มากที่สุด

สาธุ

เอิ้กๆ





2 ความคิดเห็น:

  1. ชลบุรีเขามีระบบประสานงานกันดีมาก
    จำที่หมอก้อยโทรให้ตำรวจมาดูคนเมาหน้าคลินิกได้ป่าว
    แป๊บเดียว
    พรึบเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อื้ม แต่นี่ไม่ใช่พวกกู้ภัยที่มาเป็นขบวนเหมือนตอนหมอก้อยนะ
      นี่เหมือนเป็นต่างคนต่างมาอ่ะ เป็นชาวบ้านธรรมดา แวะมาช่วยไรงี้
      มีที่ประสานงาน(ถือวอ) แค่คนเดียว กับรถตำรวจอีก 1 คันที่มีตำรวจมาคนเดียว ฮ่าๆๆ

      ลบ