23 ก.พ. 2557

One by One...Three Hundreds No.49 รักเมื่อคราวห่าลง...กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ






เล่มนี้ แม้อ่านไป โดยปิดชื่อผู้เขียนไว้

ใครๆ ก็ต้องทราบอยู่ดีว่าเป็นผลงานจากปลายปากกาของใคร

สำนวนภาษาและการเรียกตัวละครทุกตัวด้วยชื่อสกุลยาวเหยียดเต็มยศ 

คือเอกลักษณ์ของเขา...กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ




หลังอ่านเล่มนี้จบ ข้าพเจ้าซึมๆ ไปสักพัก

เพราะหนังสือเล่มนี้ จะโยนก้อนคำถามหนึ่งไว้ให้ผู้อ่าน (บางคน)

คือ...เราเป็นคนแบบไหน 

เป็นแบบตัวละครตัวใดในเรื่องนี้

เราเลือกคนรัก เลือกความรัก และปฏิบัติต่อความรักที่เราเลือกอย่างไร




ข้าพเจ้ารู้สึกว่า "รักเมื่อคราวห่าลง" เป็นกระจกสะท้อนบุคลิกความรักที่ชัดเจนมากๆ เล่มหนึ่ง

ชัดเจนเสียจนบางที...ไม่กล้ามอง

หรือกล้ามอง ก็ไม่กล้ายอมรับ




เรื่องราวถูกเปิดด้วยตัวละครที่เป็นตัวแทนอย่างเด่นชัด

ของคนไม่อาจยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้

คือ เลือกที่จะตายเสียดีกว่าต้องทนเห็นว่าอะไรๆ ในปัจจุบัน 

มันกำลังจะเปลี่ยนแปลง

ยอมตนให้จมอยู่ในอดีตอันแสนหวาน

ดีกว่าปล่อยให้เงาทะมึนขมขื่นในอนาคตกาลคืบคลานเข้ามาทำลายความสวยงามของความทรงจำ

ตัวละครผู้รับบทบาทนี้ ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

เคเรเมีย เดอ แซงตามูร์




ตามด้วยชีวิตคู่อันเข้มข้นของนายแพทย์คูเบนัล อูร์บีโนกับเฟร์มีนา ดาซา

สามีภรรยาที่ดูเหมือนว่าจะสมบูรณ์แบบราวพระเอกนางเอกในเทพนิยาย

ฝ่ายชายเพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ

ฝ่ายหญิงก็ไม่มีอะไรด้อยค่าอันจะเป็นเหตุให้ไม่คู่ควรกับบุรุษเช่นนั้น

สองชีวิตแต่งงานกันด้วยลักษณาการที่คล้ายว่านายแพทย์จะรักเฟร์มีนา ดาซาเพียงข้างเดียว

ส่วนเหตุผลที่เฟร์มีนา ดาซาแต่งงานกับเขานั้น ยากแท้หยั่งถึง

เพราะถ้าจะให้พูดว่ารัก

จะรักอย่างไรได้

เมื่อทั้งใจของหล่อน ยกให้โฟลเรนตีโน อารีซา

ชายผู้เขียนจดหมายรักดูดดื่มตราตรึงความรู้สึกไปหมดแล้ว





ชีวิตรักของนายแพทย์คูเบนัล อูร์บีโนกับเฟร์มีนา ดาซาลุ่มๆ ดอนๆ 

เพราะนายแพทย์ผู้ฉลาดปราดเปรื่องและเคร่งในศีลธรรม

ก็มีหลายมุมที่ไม่อาจประสานกับเฟร์มีนา ดาซา 

หญิงที่ดื้อเหมือนล่อ (ในเรื่องเขาว่าไว้)

ไอ้ล่อนี่มันดื้อด้านยังไง ข้าพเจ้าก็ไม่อาจทราบ

แต่รู้ว่าเฟร์มีนา ดาซา ดื้อมาก

หยิ่งทะนงมาก

บางเวลาก็ไร้เหตุผลมาก

ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงทั่วไปหรอก

แต่ที่เป็นนางเอกได้ เพราะมีลักษณะอย่างว่า มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป

จึงเกิดเรื่องเกิดราวให้เล่าสู่กันฟังเยอะกว่าชาวบ้านชาวช่อง

และที่สำคัญ...หล่อนสวย

สวยมาก

สวยขนาดนายแพทย์คูเบนัล อูร์บีโน

ซึ่งมีผู้หญิงมารายล้อมห้อมตอมมากมายก่ายกอง

ยังมาตามเทียวไล้เทียวขื่อ (จนได้มาครองสมใจ)

สวยจนโฟลเรนตีโน อารีซา หลงรักหัวปักหัวปำ

รักจนป่วย รักจนเป็นโรค

ไม่ใช่ป่วยธรรมดา ไม่ใช่โรคธรรมดา

โรคห่ากันเลยทีเดียว

เปล่า...ไม่ได้เป็นอหิวาต์ร้ายแรงจนตายอย่างนั้น

แต่อาการมันเหมือนกัน

เหมือนกันมาก (และตอนนั้นโรคห่าก็กำลังระบาดอยู่เสียด้วย)

คิดดูแล้วกัน

คนบ้าอะไร รักจนคลั่งไคล้ มีอาการดั่งโรคห่า

พิษรักร้ายแรง โชคดีที่ในชีวิตจริงยังไม่เคยเห็นใครเป็น

(อย่างมากก็ฆ่าตัวตายไปเลย เอิ้กๆ)




การแต่งงานของเรื่องนี้ หาใช่จุดจบของความรันทดขื่นขมในชีวิต

เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงไม่ใช่กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ

มันคือการเริ่มต้น คือการเปิดฉากความทุกข์ทรมานต่างหาก



นายแพทย์คูเบนัล อูร์บีโน ทุกข์เพราะภรรยาดื้อเหมือนล่อ

และที่เด็ดกว่านั้น

ทุกข์เพราะแต่งงานไป ใช้ชีวิตคู่ไปอยู่ดีๆ

ดันอยากมีชีวิตคี่ คือ มีชู้

เป็นความรักอันร้อนแรง

เป็นศรรักที่ปักอกอยากจัง

จังกว่าตอนปิ๊งเฟร์มีนา ดาซาเสียอีก

จังขนาดศีลธรรมหนาแน่นในใจยังไม่อาจฉุดได้อยู่

อยากได้ก็อยากได้ แต่กลัวบาปก็กลัว

ถึงขั้นไปบ้านผู้หญิง ปฏิบัติกิจอย่างเร่งรีบ

เพราะกลัวโดนจับได้

เสร็จบ้างไม่เสร็จบ้าง

คาดว่านายแพทย์คงทุกข์ที่สุดตรงนี้แหละ หึๆ




และแน่นอน เฟร์มีนา ดาซา เมื่อรู้ว่าสามีนอกใจ ก็ทุกข์

สามีผู้ไม่มีทีท่าว่าจะทำผิดศีลผิดธรรมเช่นนั้น

กลับหักหลังอย่างเจ็บแสบ

เพราะดันไปหลงรักเร่าร้อนกับผู้หญิงผิวดำ (ซึ่งหล่อนแอบเหยียดหยาม)

แต่ต้องยอมรับว่าเฟร์มีนา ดาซา เก่งมากและโลกนี้ยากจะมีผู้หญิงที่มีความสามารถเช่นเธอ

จับผิดสามีว่ามีชู้ได้

เพราะการดมกลิ่น

หล่อนได้กลิ่นแปลกๆ จากเสื้อ กางเกง กางเกงชั้นใน บลา บลา บลา ของสามี

บางวันมีกลิ่น บางวันไม่มีกลิ่น บางวันกลิ่นแรง บางวันกลิ่นอ่อน

หล่อนรู้หมด จับได้หมด

คือ นอกจากจะดื้อเหมือนล่อ จมูกยังดีเหมือน...อีกด้วย ฮ่าๆๆ




อนึ่ง คนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ

โฟลเรนตีโน อารีซา

เพราะเขาคนนี้

ดูเหมือนจะทุกข์ที่สุดแล้ว

รอคอยมาชั่วชีวิต

รักมาชั่วชีวิต

ต้องทนเห็นผู้ชายคนนั้น

คนที่ตัวเองไม่มีอะไรไปสู้เขาได้เลยสักน้อยนิด

เห็นเขาเดินคู่กัน ควงแขนกันอย่างมีความสุข

เห็นเฟร์มีนา ดาซาท้องป่องหลังกลับจากฮันนีมูน

สิ่งเดียวที่เขาไม่เห็นคือ

ร่องรอยความรักหวานชื่นที่เฟร์มีนา ดาซา น่าจะมีให้เขาบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี



แต่เอาเถอะ

อย่างน้อยในตอนจบ ก็ได้แอ้มกัน สมใจอยาก 

(ขณะนั้นแก่งั่กกันทั้งคู่ ลมหายใจเหม็นเปรี้ยวกันทั้งคู่ และหนังเหี่ยวกันทั้งคู่แล้วนะ)



ขณะที่อ่านเล่มนี้ ข้าพเจ้าโพสต์สเตตัสในเฟสบุ๊คครั้งหนึ่ง

เนื้อความประมาณว่า

หนึ่งในความเจ็บปวดของชีวิตคู่คือ

ใครสักคนจินตนาการว่าการได้แต่งงานกับอดีตคนรัก อาจจะมีความสุขมากกว่านี้

คือ...เฟร์มีนา ดาซา เผลอคิดว่า

ถ้าได้แต่งงานกับโฟลเรนตีโน อารีซา แทนที่จะเป็นนายแพทย์คูเบนัล อูร์บีโน

ชีวิตคู่อาจมีความสุข อาจดูดดื่ม อาจหวานฉ่ำมากกว่านี้

แค่คิด...ก็เจ็บปวดแล้ว

เจ็บปวดแทนนายแพทย์คูเบนัล อู์บีโน


(แต่นายแพทย์คงไม่เจ็บปวดหรอกกระมัง นายแพทย์ไม่รู้นิ)





ความจริง ข้าพเจ้าอ่านแล้วพับหน้าที่สะดุดใจไว้หลายหน้า

แต่ถ้าจะให้เขียนทั้งหมดในตอนนี้

ว่าเหตุใดจึงพับมันไว้

เกรงว่าจะเกินความสามารถ

เพราะอ่านจบไปได้ราวหนึ่งเดือนแล้ว

และเริ่มสงสัยในหลายหน้าว่า...พับไว้ทำไมรึ (ถามตัวเอง)

กาลเวลาเป็นปรปักษ์กับความทรงจำจริงๆ

แต่ก็เฉพาะความทรงจำอันเลือนลางที่เกาะอยู่ขอบๆ สมองและหัวใจเท่านั้น

ไม่นับรวมสิ่งที่ติดหนึบเหนียวแน่น



อาทิ


ข้าพเจ้าหันไปพูดกับคนรักหลังอ่านหนังสือจบว่า

"แพรวาเป็นเคเรเมีย เดอ แซงตามูร์"

ใช่...เพราะตอนนั้น ข้าพเจ้ากำลังอยู่ในจุดหม่นของชีวิต

จุดที่คิดว่า...บางการเปลี่ยนแปลง ก็ยอมรับได้ยากยิ่ง



ด้วยรัก

แพรวา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น