ไม่รู้หมู่นี้เป็นอะไร
แลดูจะนิยมชมชอบและนึกเอ็นดู
เด็กที่มีลักษณะตัวอ้วนๆ ผิวคล้ำๆ ยิ้มง่ายๆ
มันดูน่าฟัด น่าหยิกอย่างไรชอบกล
หรือข้าพเจ้าเป็นพวกนิยมของดำไปเสียแล้ว
จะว่าดำก็ดูน่าสงสาร
เดี๋ยวจะเป็นปมด้อยแก่เด็กเสียเปล่าๆ
เอาแค่คล้ำๆ ก็พอมั้ง
เด็กอ้วนคล้ำ :p
วันนี้ ไปกินก๋วยเตี๋ยว
ร้านนี้ คนเยอะตลอดกาล
ขนาดมีพนักงานมากมาย วิ่งไปมาแทบจะชนกันตาย
ก็ยังไม่วาย บริการไม่ทัน
ทว่า
ข้าพเจ้าสะดุดตา
เด็กผู้ชายสองคน
หน้าตาเหมือนกันมาก
อ้วนๆ คล้ำๆ
มองไปมองมา
ฝาแฝดกันนั่นเอง
แต่คนหนึ่งใส่เสื้อแดง
อีกคนใส่เสื้อเขียว
(แหม ถ้าแฝดสาม คงเสื้อเหลืองเป็นไฟจราจรเลยสินะ)
ทั้งสองขยันขันแข็ง
วิ่งไปเช็ดโต๊ะ เก็บถ้วย เก็บจานที
ไปล้างจานที
ไปตักข้าวที
ทำทุกอย่าง ที่ผู้ใหญ่ทำ ยกเว้น รับออเดอร์และเก็บตังค์
ทำงานกันกระตือรือร้นมาก
ข้าพเจ้านั่งมองอยู่นาน
อดยิ้มไม่ได้
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม
เด็กๆ ไม่ได้ไปโรงเรียน
ก็น่ายินดี ที่เด็กบางคน
เอาเวลาเหล่านั้น มาช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน
ได้เรียนรู้ ว่างานมันหนัก มันเหนื่อย
ได้เห็นคุณค่าของการทำงาน
เรื่องเงินคงไม่ต้องพูดถึง
เด็กเขาคงรู้ของเขาเอง ว่ามันหายาก หรือไม่ยาก
นี่เป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
ดีกว่ามานั่งพร่ำบอกว่า ให้ประหยัดนะลูก
อย่ามัวแต่เอาเงินพ่อแม่ไปเล่นเกม ไปซื้อของฟุ่มเฟือย
พ่อแม่เหนื่อย เงินมันหายาก ลำบากนักกว่าจะได้มา
ตัวข้าพเจ้าเอง
เมื่อยังเด็กขนาดนี้ ก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไรที่มันเป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้
ปิดเทอม ก็อยู่บ้าน
อยู่กับโทรทัศน์ ที่เปิดไว้งั้นๆ ดูบ้างไม่ดูบ้าง
อยู่กับสมุดภาพระบายสี และสมุดคัดลายมือกองเบ้อเริ่ม
ที่พ่อซื้อไว้ให้
อยู่กับหนังสือแบบเรียน
หรือแบบไม่เรียน
อยู่กับหมาแพนด้า
(หมาจริงๆ ชื่อแพนด้า ไม่ได้ต้องการจะผวนคำแล้วพิมพ์ผิดแต่อย่างใด)
ข้าพเจ้าทำงานครั้งแรก
ก็ตอนปิดเทอม ม.3 จะขึ้น ม.4
ข้าพเจ้าเชื่อว่า เด็กที่ได้ทำงาน
จะเป็นเด็กที่สามารถคิด ก่อนการใช้จ่ายเงิน
มากกว่าเด็กที่ไม่เคยประสบกับการขั้นตอนการหาเงินจริงๆ
ส่วนเด็กจะประหยัดหรือไม่นั้น
ก็เรื่องของเขา
ไม่จำเป็นเลย ที่เมื่อรู้ว่า หาเงินยากแล้วจะต้องประหยัดสุดขั้ว
เพราะบางคน Work hard Play hard
ให้รางวัลตัวเอง ให้สมกับที่เหนื่อย
มีเงินก็ใช้
แค่ใช้อย่างไรให้คุ้มค่า ก็เท่านั้น
และคุ้มค่าของแต่ละคน ก็วัดกันไม่ได้เสียด้วย
ต้องขึ้นอยู่วิจารณญาณ และความพึงพอใจ
ส่วนบุคคล
เท่านั้น
ข้าพเจ้าเอ็นดูเด็กแฝดสองคนนั้นมาก
ขนาดคิดว่า จะให้ทิปดีไหม
แต่ก็กลัวอะไรหลายๆ อย่าง
เพราะเคยเจอมาเหมือนกัน
ที่ข้าพเจ้าให้ เพราะอยากให้
ให้เพราะเห็นว่าเขาสมควรได้
แต่ตัวเขาเอง
ไม่อยากรับ จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม
เขามีเหตุผลของเขา
ที่เราไม่อาจก้าวล่วง
แต่ด้วยความที่พี่ๆ ที่ไปด้วยก็เชียร์
บอกว่าให้เลย ให้น้องเขาเองเลย
ฝากพนักงานคนอื่นให้ เกรงว่าจะไม่ถึง
และน้องก็มายืนรอเก็บโต๊ะด้วยแล้ว
ข้าพเจ้าจึงหยิบเงินยื่นให้น้อง
ให้เอาไปกินขนม
แต่น้องไม่รับ
นั่นไง
เป็นไปตามการคาดคะเนลึกๆ ของข้าพเจ้าจริงๆ
ข้าพเจ้าชื่นชมน้อง
ที่ขยันขันแข็ง
มันเป็นความน่ารักน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
ตอนนี้ ผ่านมาครึ่งวัน
เมื่อได้พักแล้วคิดถึงเด็กสองคนนั้น
ข้าพเจ้า...ยังอมยิ้มอยู่เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น