13 มิ.ย. 2556

ว่าด้วยความคลั่งไคล้



ช่วงสองสามวันมานี้

อาการเก่าที่นานๆ จะเป็นได้กำเริบขึ้นมา

คือ อาการคลั่งไคล้ใครบางคน

ต้องใช้คำว่า "คลั่งไคล้"

เพราะข้าพเจ้ารู้ตัวเองดีว่าไม่มีคำไหนแทนค่าอาการนี้ได้อีกแล้ว



มันเป็นนิสัยอย่างหนึ่ง

ซึ่งหลายๆ คนก็อาจเป็น

ยามเมื่อชอบใครหรืออะไร

ก็จะชอบ

แบบหัวปักหัวปำ

วันๆ ไม่ทำอะไร

นึกถึงแต่คนนั้น

โหยหาแต่คนนั้น

อาการนี้ ไม่ได้เป็นเฉพาะกับบุคคลเท่านั้น

แต่รวมถึงอาหารการกิน

บทเพลง

และกิจกรรมในชีวิตด้วย



ข้าพเจ้ามีนิสัยไม่ดีเกี่ยวกับการกินคือ

ถ้าชอบกินอะไร ก็จะกินซ้ำๆ อย่างนั้น

จะไม่ค่อยกินอย่างอื่น

จนกระทั่งเบื่อไปเอง

และถ้าเบื่อแล้ว ก็จะไม่กินอีกเลย



สมัยเรียน ม.ปลาย

ข้าพเจ้ากินมาม่าขี้เมาปลาหมึกเกือบทุกวัน

คือถ้าได้ออกจากบ้าน

ไม่ได้กินข้าวที่บ้าน

แล้วต้องไปกินอาหารตามสั่ง

เมนูนี้คือเมนูเดียวที่ข้าพเจ้าปรารถนา

แต่เมื่อถึงคราวที่จะไม่กินอีกแล้ว

เบื่อแล้ว

ก็จะไม่กินอีกต่อไป



จนถึงทุกวันนี้

ข้าพเจ้าจำไม่ได้เสียแล้วว่าเคยกินเมนูนั้นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่




ตอนเรียน มหาวิทยาลัย ช่วงปี 3 ถึงปี 4

ตลอด 2 ปีนั้น จนกระทั่งทุกวันนี้ (รวมก็ 4 ปีแล้วสินะ -*-)

เมนูอาหารตามสั่งของข้าพเจ้าคือ

"ข้าวกะเพราหมูสับเผ็ดๆ แห้งๆ ขอแตงกวาด้วย"

เมนูนี้ ยาวนานที่สุดแล้ว



กลับมาว่าด้วยเรื่องคน

ข้าพเจ้าไม่ได้ดูละครนัก

เพราะรู้สึกเสียดายเวลา

ถามว่าชอบไหม

ก็ชอบ

ถ้าดูจะติดไหม

ก็ติด

แต่แล้วเมื่อชอบ ทำไมจึงไม่ดู

ก็เพราะด้วยนิสัยส่วนตัวแล้ว

ข้าพเจ้าไม่ชอบปล่อยให้ตัวเองอยู่กับการ เสียเวลา หรือ สิ่งไร้สาระ มากนัก



ข้าพเจ้าก็เหมือนคนอื่นๆ

ถ้าดูละครก็จะติดละคร

ถ้าเล่นเกม ก็ติดเกม

แต่ข้าพเจ้าไม่ติดละคร และไม่ติดเกม

เพราะปรารถนาจะใช้เวลาไปกับกิจกรรมอย่างอื่นที่ได้ประโยชน์มากกว่า



แม้บางวัน ที่ขี้เกียจเหลือเกิน

และนอนทั้งวัน

ข้าพเจ้ายังรำคาญตัวเอง

และรู้สึกว่า วันที่เปล่าประโยชน์นั้น มันน่ารังเกียจ




มันเป็นอย่างนั้นเอง

ด้วยนิสัยแต่ดั้งเดิม

มิใช่มาจากการปรุงแต่ง

มิใช่เกิดจากการพยายามให้เป็น




บางครั้ง ข้าพเจ้าก็อยากให้ตัวเองผ่อนคลาย

และใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยๆ บ้าง

แต่เมื่อลองทำจริงๆ

ไม่เกิน 2 วัน

ชีวิตมันก็น่าเบื่อหน่ายแล้ว

มันไม่ใช่วิถีทางแห่งการผ่อนคลายของข้าพเจ้า




ว่าจะเข้าเรื่องคน ออกทะเลไปเสียไกล 555

ว่าด้วยเรื่องคน

โดยมาก ข้าพเจ้าไม่ค่อยสนใจดารา

จะติดตามความเคลื่อนไหวของวงการมายานี้

ก็มีบ้างที่ไปยืนอ่านหนังสือพวกซุบซิบดารา หรือนิตยสารบันเทิงที่ร้านหนังสือ

อ่านที่ร้านจนจบนั่นแหละ

(ไม่เสียเงินซื้อเช่นกัน)

รู้แล้วก็เท่านั้น

พูดคุยกับคนอื่นรู้เรื่องบ้างนิดๆ หน่อยๆ

แต่ก็ไม่ใช่จะได้ใส่ใจอะไรมากมาย

เพราะเรื่องของคนอื่น ที่เป็นคนอื่นจริงๆ

รู้ไปก็ใช่ว่าจะเกิดสารัตถะอันใดกับชีวิต




แต่บางครั้ง

ข้าพเจ้าก็มีอาการคลั่งไคล้ดาราบางคน

คือ ชอบมาก

โดยคนเหล่านั้นมักจะมีลักษณะร่วมกันคือ

จมูกโด่ง และไหล่กว้าง หุ่นเฟิร์ม

โดยที่กล้ามไม่ใหญ่เกินไปนัก

ช่วงเวลาที่ชอบ ก็จะนั่งดูรูปคนนั้นเกือบทั้งวัน

(เอามาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ใน Social network ด้วย)

ฟังเพลงที่คนนั้นร้อง (กรณีเป็นนักร้อง)

ดูละครที่คนนั้นแสดง (แต่ส่วนใหญ่ก็มักไม่ค่อยได้ดูอยู่ดี)

เป็นอย่างนี้สักช่วง



อย่างช่วงนี้

ข้าพเจ้าก็บ้า "เจมส์ มาร์"






ผู้ชายอะไร หน้าตาทะเล้น และเจ้าเล่ห์

แต่มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ

จมูกแหลม คางแหลม ตาเล็กแหลม

เป็นลักษณะของคนไม่น่าไว้ใจ

แต่ก็เท่านั้น

ข้าพเจ้าเพียงชอบมอง

ชอบก็คือชอบ

ไม่มีเหตุผลอย่างอื่น

และความชอบของข้าพเจ้าก็จำกัดไว้เพียงภายในขอบเขตโลกของข้าพเจ้าเท่านั้น

เพราะฉะนั้น เมื่อข้าพเจ้าชอบที่รูปร่างหน้าตา

อย่างอื่นก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงอีก

เพราะอย่างไรเสีย

ข้าพเจ้าก็เพียงนั่งดูรูปเขาไปวันๆ

ดูอากัปกิริยาการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเขาก็เท่านั้น

หาได้อยากอยู่เคียงข้าง อยากสัมผัส

หรือผูกสัมพันธ์ด้วยแต่อย่างใด

เพราะเหตุเหล่านี้

อากาคลั่งไคล้ของข้าพเจ้า

จึงอยู่ไม่นาน



เพราะมันเป็นเพียงการหลงในรูป

ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกเหล่านี้

หาได้อยู่คงทนถาวร

เมื่อเขาเปลี่ยนไป เป็นแบบที่ข้าพเจ้าไม่ชอบเสียแล้ว

ความชอบของข้าพเจ้าก็จะหายไปเอง

หรือเมื่อเบื่อแล้ว

ข้าพเจ้าก็ลบรูปของเขา วิดีโอของเขาไปจากมือถือ ก็เท่านั้น



อาการนี้ มาเร็ว รุนแรง และจากไปอย่างไม่ทิ้งร่องรอย


เหมือนดาราคนอื่นๆ ที่ข้าพเจ้าเคยชื่นชอบ

ถึงตอนนี้

ก็หาได้ชอบอีกแล้ว




เหมือนการฟังเพลงบางเพลง

ช่วงที่ชอบก็ฟังเพลงนั้นทั้งวัน

และเมื่อฟังจนเบื่อ

ฟังจนเอียน

ในมือถือก็จะไม่มีเพลงนั้นอีกต่อไป



เว้นเสียแต่ว่า

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน

ข้าพเจ้าจะระลึกได้ว่า

เพลงนี้ เคยเป็นเพลงที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ

แล้วหวนกลับมาฟังอีกครั้ง



แต่จะเปรียบเทียบกับเพลง

ก็ดูจะไม่เหมือนกันทั้งหมด

เพราะบทเพลงที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ

มักจะมีความทรงจำบางอย่างอยู่ในเพลงนั้น

ทำให้เกิดเส้นใยบางๆ เชื่อมโยงและดึงข้าพเจ้ากลับมาหามันได้อยู่บ้าง



แต่ดารานี่

ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ เลย

ผ่านมาแล้วผ่านไป



เป็นความไม่แน่นอนของอารมณ์และจิตใจอย่างแท้จริง




แท้จริงแล้ว

ข้าพเจ้าก็รู้ว่าควรจะหักห้ามใจตนเอง

ไม่ให้จิตใจอ่อนไหวไปกับกิเลสเหล่านี้มากนัก

เพราะอาการเหล่านี้

จะว่าไป ก็อันตรายอยู่เหมือนกัน

หึๆ








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น