9 มิ.ย. 2556

คนของเธอ..ด้วยรักสุดหัวใจ


วันนี้ เป็นวันครบรอบสองปี

ความจริง ว่าจะไม่เขียนอะไร

เพราะก็ต้องบอกตามตรงด้วยความซื่อสัตย์ว่า

ข้าพเจ้าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับวันนี้มากนัก

เพราะได้ตื่นเต้นนำไปก่อนหน้านี้เมื่อหลายวันมาแล้ว

ฮ่าๆๆ



ถึงวันนี้จริงๆ

ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่างเปล่า

และหนำซ้ำ ยังแอบรำคาญ Facebook อีกด้วย

จะเตือนอะไรกันนักหนา

ครบรอบวันแต่งงานเนี่ย

กรูรู้แล้ว (เตือนมาเป็นอาทิตย์กันเรยทีเดียว)

กร๊ากๆ



สำหรับข้าพเจ้า วันนี้เป็นวันธรรมดา

เพราะรู้อยู่แล้วว่า

เราต่างรักกันมาเนิ่นนาน

และจะรักกัน เดินด้วยกันไปอีกแสนไกล




แต่กระนั้น

วันนี้ก็ยังมีช่วงเวลาที่ได้นึกย้อนกลับไปทบทวนวันเวลาที่ผ่านมา

ตลอด 2 ปีนี้

ข้าพเจ้าทำอะไรที่ดี หรือไม่ดีกับคนรักไว้บ้าง

เราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร

คืนดีกันได้ยังไง

เมื่อวันที่คบกันใหม่ๆ

ข้าพเจ้าตั้งใจไว้ว่าอย่างไร

กับความรักครั้งนี้

โอ๊ะ..เขียนไปเขียนมาก็เยอะนะเนี่ย ฮ่าๆ




เดิมที ข้าพเจ้าหวาดหวั่นกับรักครั้งนี้

กับคนรักคนนี้

เขาจะรักข้าพเจ้าจริงหรือเปล่า

มันเป็นความไม่แน่ใจ

และด้วยการเริ่มต้นความรักที่ค่อนข้างมึนๆ งงๆ

ไม่เหมือนที่ผ่านๆ มา


นี่เป็นเพลงแรกที่ข้าพเจ้ามอบให้เขาทางอีเมลล์

กลัวเธอผิดหวัง



เขาเป็นคนฉลาด

ฉลาดเกินไป เกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้

(เท่าที่รู้จักในตอนนั้น)

น้องคนหนึ่งถามข้าพเจ้าว่า

"พี่ตามเขาทันไหม"

ข้าพเจ้าตอบโดยไม่ต้องคิดเลย

(กรูจะเอาอะไรไปทันฟระ)




เรามีอะไรหลายอย่างคล้ายๆ กัน

มีความชอบอย่างเดียวกัน

มีเหตุการณ์ในชีวิตใกล้เคียงกัน

จนบางที ก็อดประหลาดใจไม่ได้




เมื่อแรกเริ่มที่เราได้พบกัน พูดคุยกันในฐานะพี่น้อง

คนรู้จักที่จะเรียกว่าสนิทก็ไม่ใช่

แต่ข้าพเจ้าก็คุยกับเขาได้เป็นชั่วโมงๆ

มีเรื่องคุยกันตลอดๆ

น่าแปลกที่ข้าพเจ้าไว้ใจเขาอย่างประหลาด



ตอนนั้น ความรักฉันท์หนุ่มสาวนี้

หาได้มีในความคิดข้าพเจ้าแต่อย่างใด

(ยังแอบสงสัยว่าแมนรึเปล่าด้วยซ้ำ เอิ้กๆ)



เขา ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจคำพูดที่ว่า

"คนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่"

เรารู้จักกันมาพอสมควร

แต่เขาเพิ่งจะใช่ สำหรับข้าพเจ้า ก็เมื่อสองปีมานี้เอง ฮ่าๆๆ




ตลอดระยะเวลาสองปีมานี้

ข้าพเจ้าน้อยใจเขาหลายครั้ง

โกรธเขาหลายครั้ง

เหวี่ยงเขา พาลใส่เขา

บางครั้ง ก็พูดกับเขาด้วยถ้อยคำและท่าทางที่ร้ายกาจเหลือเกิน



ข้าพเจ้าไม่อาจบอกได้ว่า

อนาคตในภายหน้าจะไม่เป็นเช่นนี้อีก

แต่คงจะพยายามเป็นให้น้อยลง

จะควบคุมสติตัวเองให้มากกว่านี้



น่าแปลกที่ข้าพเจ้าโกรธคนอื่นน้อยมาก

แต่กลับโกรธเขาได้อยู่เสมอๆ

แปลกที่ข้าพเจ้าพูดจาดีกับคนอื่น

แต่กลับพูดแย่ๆ กับเขา

ข้าพเจ้าเจ็บปวดทุกๆ ครั้งที่ทำเช่นนั้นกับเขา

แต่ก็ยากที่จะเข้าใจตัวเองว่า เช่นนั้นแล้ว จะทำไปทำไม

อารมณ์กับเหตุผล เป็นสิ่งที่เข้ากันได้ยากจริงๆ




เอาเถอะ

ข้าพเจ้าหาได้ปรารถนาที่จะพูดหรือนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นมากนัก

เพราะก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่า

เจ้าความรู้สึกแย่ๆ

เจ้าปีศาจเหล่านั้น

จะออกอาละวาดอีกเมื่อไหร่

ข้าพเจ้ากลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถควบคุมมันได้



หลายคนอาจมองข้าพเจ้าเป็นคนใจเย็น

หรือนิ่งๆ เฉยๆ กับหลายๆ สิ่ง

ยิ่งเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็ยิ่งรู้สึกผิดกับเขาเป็นทวีคูณ




ข้าพเจ้าเคยตั้งใจไว้ว่า

จะดูแลเขา

จะอยู่เคียงข้างเขา

จะทำเพื่อเขา

ข้าพเจ้าก็ทำได้นะ

ข้าพเจ้าอยากปกป้องเขา

ใช่..เขาปกป้องตัวเองได้

แต่กระนั้น ข้าพเจ้าก็มักจะเจ็บแทนเขา

ยามที่มีใครมาทำร้ายหรือเอารัดเอาเปรียบเขา

เขาอาจอโหสิ ปล่อยคนเหล่านั้นไป

แต่เป็นข้าพเจ้าเสียเองที่เป็นเดือดเป็นร้อน

เขาเจ็บ ข้าพเจ้าก็เจ็บ

(นึกถึงเพลงนี้อีกเพลง เคยเขียนไว้ในบล็อกนี้แล้ว

แต่อยากระลึกถึงอีกครั้ง

คนอุ่นของเธอ)




บางที ข้าพเจ้าก็เบื่อจริตของตัวเอง

ที่หมกมุ่นและขังตัวเองอยู่ในความคิดฟุ้งซ่านบ้าๆ บอๆ

และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดแก่ชีวิต

ข้าพเจ้าชิงชังตัวเอง

ที่ไม่อาจสลัดสิ่งรบกวนจิตใจต่างๆ นานา

ที่จะทำลายหรือบั่นทอนความสัมพันธ์ของข้าพเจ้าและเขา




ข้าพเจ้าดีใจเหลือเกิน

ที่เขาไม่เบื่อข้าพเจ้า เหมือนที่ข้าพเจ้าเบื่อตัวเอง

ข้าพเจ้าโชคดีเหลือเกิน

ที่คนรักไม่ชิงชังความงี่เง่าของข้าพเจ้า

เหมือนที่ข้าพเจ้าชิงชังตัวเอง




ขอบคุณที่เข้าใจ

และมีความรักให้ข้าพเจ้าเสมอมา

ขอบคุณอีกครั้งที่ยังรั้ง

ยังเดินตามข้าพเจ้าอย่างมั่นคง

ในวันที่ข้าพเจ้าวิ่งหนีเขาด้วยความไร้เดียงสาและโง่บรมเหลือเกิน



ข้าพเจ้าอาจอยู่ได้ หากไม่มีเขา

แต่มันคงไม่ใช่การอยู่อย่างมีความสุขหรืออบอุ่นเช่นนี้แน่นอน

ข้าพเจ้าไม่อาจทนต่อความเคว้งคว้างในเส้นทางเดินของชีวิต

แม้เพียงเช่นทุกวันนี้

ที่เราต้องอยู่ไกลัน

ยังไม่มีสักวัน ที่ข้าพเจ้าไม่คิดถึงเขา



ช่วงหนึ่งที่ข้าพเจ้าฟังเพลงนี้เกือบทั้งวัน

และคิดถึงเขา ผู้อยู่ห่างไกลเกือบทุกนาที


ชีวิตที่ขาดเธอ

(เคยลงใน Entry เก่าๆ แล้วเช่นกัน)




นึกย้อนกลับไป

กว่าจะปรับตัวเข้าหากันได้ก็มีเรื่องตลกอยู่พอสมควร

ข้าพเจ้าเคยโกรธเขา

ด้วยเพราะ

ข้าพเจ้าเป็นคนกินกับข้าวทีละอย่าง

(นิสัยประหลาดของตัวเอง)

กินอย่างนี้เสร็จ จึงจะกินอย่างต่อไป

ถ้าอิ่มก่อนจะถึงอย่างสุดท้าย ก็ช่างมัน (อดกินไป)

หรือถ้าอย่างที่ยังกินไม่ถึงมันหมดก่อน

ก็อดไป (ช่างมัน ฮ่าๆ)

ข้าพเจ้าไม่เคยโกรธที่ไม่ได้กินอะไร หรือกินไม่ทันใคร

แต่ข้าพเจ้าดันโกรธเขา

ที่รู้ทั้งรู้ว่าข้าพเจ้ากินกับข้าวทีละอย่าง

กลับไม่เหลืออย่างที่ข้าพเจ้าอยากกิน (และยังกินไปไม่ถึง) ไว้ให้

(กินคนเดียวหมดเรย -*-)

เพราะยำปลาหมึก ฮ่าๆๆ




หรืออีกครั้ง

ที่เราไปร้องคาราโอเกะ

เราเลือกเพลงกันรัวๆ

เพลงที่เขาเลือก กับเพลงที่ข้าพเจ้าเลือก ค่อนข้างจะไปด้วยกันไม่ได้

ระหว่างที่คนหนึ่งร้อง

อีกคนจึงเลือกเพลงไป

ระหว่างเขาร้อง ข้าพเจ้าเลือกเพลงไว้ 3-4 เพลง

พอถึงคิวข้าพเจ้าร้อง เขาก็เลือกเพลง

หมดเพลงที่เลือก ข้าพเจ้าส่งไมค์ให้เขา

และไม่ได้จับไมค์อีกเลย

เพราะเขาเลือกเพลงไว้รัวๆ จริงๆ (น่าจะเกิน 10 เพลง)

เป็นเพลงของเขาติดกันจนกระทั่งหมดชั่วโมงคาราโอเกะครั้งนั้น

และข้าพเจ้าก็หงุดหงิดเกินกว่าจะต่อเวลา

(แม่ม เลือกเพลงกะไม่ให้คนอื่นได้ร้องเลยใช่มะ)

ครั้งนั้น ข้าพเจ้าโกรธ

แต่เขาขำจะเป็นจะตาย

ขำสาเหตุที่ข้าพเจ้าโกรธ

"โกรธเพราะไม่ได้ร้องคาราโอเกะ"

หึๆ



อนิจจา

ความรักนี่หนา

นึกย้อนไปแล้ว ฮาจริงๆ

โกรธไปได้ เอิ้กๆ



ป.ล. เรามีเพลงของเราหลายเพลง

ข้าพเจ้ามีเพลงของข้าพเจ้าที่ฟังแล้วคิดถึงเขา อีกหลายเพลง




1 ความคิดเห็น:

  1. ชอบคิดอะไรไร้สาระไปเองน่ะแพรวา
    เป็นเด็กก็ถูกแกล้งอย่างนี้แหละ
    555
    ไอ่แกะ

    ตอบลบ