ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่นชอบการฟังเพลงที่ไม่มีเสียงร้องของมนุษย์คนอื่น
ในบางเวลา
ข้าพเจ้าปรารถนาจะอยู่กับเสียงดนตรีอันบริสุทธิ์
มีเสียงเอื้อนเอ่ยเป็นทำนอง
เป็นเสียงที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือการดัดจริตมากเกินไปนัก
เวลาที่ท่วงทำนองเหล่านี้
ค่อยๆ แทรกซึม ค่อยๆ กระทบใจของเรา
ข้าพเจ้ารู้สึกว่า
มันลึกซึ้ง
ละเอียดอ่อน
และนุ่มนวล
สัมผัสนั้นเบาบาง
แต่กลับมีน้ำหนักมหาศาล
น้ำหนักที่ทิ้งไว้ในใจ
ในขนาดเท่าที่เพลงประเภทอื่นๆ ไม่สามารถทำได้
แรงกระแทกของมันมีมากกว่าเสียงผู้คนที่เปล่งออกมา
มากกว่าเสียงร้อง ถ้อยคำใดๆ
เพลงเหล่านี้
มีเนื้อร้องในตัวเองแจ่มชัดอยู่แล้ว
โดยไม่ต้องมีคำอธิบายอะไร
มันน่าอัศจรรย์และน่าทึ่งยิ่งนัก
ที่เรารับรู้ความหมายของเพลงเหล่านี้ได้
สัมผัสอารมณ์ของท่วงทำนอง
รวมถึงอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง
โดยที่ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ
ไม่ต้องถามไถ่ถึงที่มา
หรือไม่ต้องแม้กระทั่งจะเอ่ยปากถามผู้เป็นเจ้าของบทเพลงเหล่านั้นว่า
เขาปรารถนาจะให้คนฟังรู้สึกเช่นไร
เพลงเหล่านี้ มีเสน่ห์ตรงที่
เราสามารถฟังแล้ว รู้สึกอะไร ยังไงก็ได้
บางคนฟังแล้วหดหู่ บางคนฟังแล้วสงบ เยือกเย็น
บางคนฟังแล้วอยากร้องไห้
หรือบางคน อาจฟังแล้วรู้สึกอยากโบยบินไปไหนสักแห่ง
ความทรงจำของแต่ละคน ย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ข้าพเจ้ารู้สึกเพียงว่า
ตัวเองมีอิสระอย่างแท้จริง
เมื่อได้ฝังอารมณ์ไว้กับทำนองเหล่านี้
เพลงเดียวกัน
ฟังต่างวัน
ต่างเวลา
ต่างอารมณ์
ความรู้สึกที่สัมผัสได้
ต่างกันราวกับไม่ใช่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ใช่ข้าพเจ้า
แต่ในขณะเดียวกัน
ข้าพเจ้าก็เป็นข้าพเจ้าที่สุด
ในเวลาอันสั้นนี้
ข้าพเจ้ารัก Kenny G
รัก เพราะเสียงโซปราโน่ของเขา
มอบอิสระให้แก่ข้าพเจ้า
ในเวลาที่ข้าพเจ้าถูกกักขังไว้ด้วยอะไรบางอย่าง
ถ้าข้าพเจ้าจะมีวันหนึ่งที่ได้สวมชุดเจ้าสาวขาวบริสุทธิ์
หากไม่ใช่เสียงคลื่นกระทบฝั่ง
ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็จะต้องมีเพียงเสียงโซปราโน่นุ่มนวลนี้เท่านั้น
ที่จะได้รับอนุญาตให้พลิ้วไหวและรื่นเริงอยู่ในวันเวลาที่แสนพิเศษของข้าพเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น