ตั้งแต่เด็กๆ สมัยแตกเนื้อสาว
ทำอะไรๆ ได้เอง
มีอิสระในการใช้ชีวิต
ทำเอง เสี่ยงเอง รับเองได้
ข้าพเจ้าก็วิ่งเข้าหาสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา
ทำตัวเองให้ยุ่ง ให้มีอะไรต้องทำ
ไม่ค่อยอยู่ว่างๆ
เพราะรู้สึกว่า
วันๆ หนึ่งที่หายใจทิ้งไปเสียเฉยๆ
มันน่าเสียดาย
ยิ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
ถึงกับต้องจัดตาราง มีสมุดโน้ตติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ลงบันทึกว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
อันไหนด่วนสุด อันไหนหยวนๆ
ตอนนั้น รู้สึกสนุกสนานกับการใช้ชีวิตมาก
เพราะรู้สึกว่ามันคุ้มค่า
อยากทำอะไรก็ได้ทำ
แม้จะต้องแลกกับอะไรหลายๆ อย่าง
ก็หาได้สนใจสิ่งที่เสียไป
เพราะพิจารณาแล้วว่าสิ่งที่ได้มา มันคุ้มค่า
จนถึงตอนนี้
นิสัยเดิมก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
อะไรที่อยากทำจริงๆ ก็จะทำ
เอาแต่ใจ
อะไรที่ไม่อยากทำ แต่คิดว่าคงทำได้
ก็อาจจะทำ
แต่ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ
แล้วแต่อารมณ์
เหตุที่เป็นเช่นนี้
อาจเพราะเนื้อแท้จริงๆ
ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์คิดมาก
และมักคิดไปในทางร้าย
ยิ่งบวกกับการมีสภาวะทางอารมณ์ที่ไม่ดีในขณะนั้นด้วยแล้ว
ประสิทธิภาพในการคิดอย่างสมเหตุสมผลจะลดลง
เมื่อทะเลาะหรือมีเรื่องหมางใจกับใคร
จึงจำเป็นอย่างยิ่ง
ที่ข้าพเจ้าจะต้องหาหนทาง
นำพาตัวเองออกมาจากจุดๆ นั้น
ไกลจากคนนั้น
ไกลจากเรื่องนั้น
เพื่อรอจังหวะ รอเวลา ที่พร้อมจะคิดจริงๆ
อย่าด่วนสรุปความคิดและการกระทำของข้าพเจ้า
อย่าคิดว่ารู้จักข้าพเจ้าดีแล้ว
อย่าคิดแทนว่าสาเหตุที่ข้าพเจ้าเป็นอย่างนั้น มันเพราะอะไร
อย่าตัดสิน..หากยังไม่ได้รู้ ไม่ได้ฟัง ไม่ได้เข้าใจจริงๆ
เพราะอย่างไรซะ ก็ไม่มีใครเข้าใจใคร
ไปได้ทุกเรื่อง
และแม้จะมั่นใจในความเข้าใจของตนเอง
มั่นใจในสติปัญญาของตนเองแล้ว
ก็อย่าลืมว่า
จิตใจมนุษย์นั้น..ยากแท้หยั่งถึง
และข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์ผู้หนึ่ง เท่านั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น