26 ก.ย. 2554

ผู้หญิงคนหนึ่ง

หญิงสาว..คนหนึ่ง
หอบข้าวของพะรุงพะรัง
เดินตากฝน
ในกระเป๋ามีร่ม
แต่ไม่กาง
อาจเพราะไม่มีมือว่างสำหรับกาง
หรือไม่อยากกาง ทั้งที่ถ้าจะกางก็ทำได้

เธอเบียดเข้าไปในรถไฟฟ้า
ช่วงเวลาเย็นหลังเลิกงาน
และฝนตก
เป็นอะไรที่รุกันดีว่า
บนนั้น จะอัดกัน สุดๆ
อย่าให้เปรียบเลยว่าเหมือนอะไร
ทุกคนเห็นภาพกันดี

คนแน่น ของเยอะ และหนัก
แขนเป็นรอย รูปอะไรก็ไม่รู้ ดูไม่ออก
ไม่มีจินตนาการ รุแค่เป็นรอยแดงๆ
พาดไป ตวัดมา เต็มไปทั้ง 2 แขน

ขึ้นจากอโศก ไปสยาม
คนแน่นตลอดเส้นทาง
เพิ่งหายใจได้คล่อง
ก็ตอนถึงสถานีปลายทางและก้าวพ้นจากตัวรถแล้ว

ฝนยังคงตก
แม้ไม่หนัก แต่ก็ทำให้เปียกและรำคาญได้
โดยเฉพาะเมื่อวันนั้น ใส่ส้นสูง
ที่แม้ไม่สูงมาก
แต่ก็อาจทำให้ลื่นหัวฟาดนู่นนี่นั่น
อายชาวเมืองที่เดินผ่านไปมาได้

เดินผ่านดิจิตอลเกตเวย์
ที่จริง จำไม่ได้ ว่าควรจะต้องเดินไปทางไหน
อาศัยความเคยชิน
ที่มากับคนรักบ่อยๆ
เพราะที่ผ่านมา
เดินตามเค้าตลอด ไม่เคยมองหรือจำทางเลย
ครั้งนี้ ไม่มีเค้า เลยต้องพึ่งตัวเอง

ออกมาจากเกตเวย์ ยืนอึนสักพัก ว่าต้องไปทางไหน
เพราะยังไม่เห็นตึก
ที่เป็นจุดหมายปลายทาง
จำได้ว่าจะต้องผ่านร้านทาโกะยากิ
ร้านเสื้อผ้าที่มีลูกไม้เยอะๆ กระโปรงพลิ้วๆ
เลยเดินตรงไปอีก
ดีที่ร้านนั้น ยังไม่เปลี่ยนแนวแฟชั่นเสื้อผ้า

เดินออกมา เห็นแล้ว ตึกสีขาว
ด้านหน้ามีบริติช เคาน์ซิล
เดินไป เดินตรงไป เดินเข้าไป

ฝากถุงผ้าใหญ่ๆ
กับถุงกระดาษที่ต้องบอกพี่พนักงานว่า ระวังหน่อยนะคะ
เดี๋ยวถุงน้ำมะพร้าวแตก
และกระเป๋าอีก 1 ใบ
พี่พนักงานหันมาถาม
ใบนี้ด้วยหรอ
พยักหน้าตอบ
พี่เค้าย้ายของ
ไปช่องที่ใหญ่กว่าเดิม

เดินเข้าไปข้างใน
เลือกไปที่มุมหนังสือออกใหม่กับหนังสือรางวัล
มองหา...ใครบางคน
ไม่อยู่
เค้าอาจอยู่ที่มุมอื่น
ที่นี่ตั้งกว้าง
เดินไปเรื่อยๆ
เค้าอยู่ในนี้แหละ
เด๋วก้อเจอกันเอง
หรือไม่ก็ยืนจนร้านปิด
พอร้านปิด เราออกไปนอกร้าน ก็จะเจอกัน
เหลืออีกประมาณชั่วโมงครึ่ง ถึงจะปิด
ดูหนังสือไปก่อนแล้วกัน

ได้หนังสือที่จะซื้อมา 3 เล่ม
กฎหมาย 1 เล่ม
ภาษาอังกฤษกฎหมาย 1 เล่ม
แบบฝึกอ่านภาษาไทยของน้อง 1 เล่ม

เวลาผ่านไป
ได้ยินเสียงประกาศ
อีก 10 นาทีจะปิดบริการ

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
โทรหาคนที่นัดไว้
เขารับ
เสียงดังมาก
เป็นเสียงผู้หญิง หลายๆคน
ไม่ได้ยินเสียงเค้า
เพราะเสียงเธอเหล่านั้น กลบหมด
ถามว่าเค้าอยู่ที่ไหน
"เอ่อ พี่อยู่ในที่ที่เสียงดังมาก"
"..."
คุยกันอีก 4-5 ประโยค
ก็วางโทรศัพท์

น้ำตาจะไหล
แต่ไม่ไหล

โกรธ
เสียใจ
ปวดใจ
เจ็บใจ

ไม่อยากให้มา
ไม่อยากเจอกัน
แล้วนัดมาทำไม

ให้เป็นยัยบ้าหอบฟาง
เดินงกๆเงิ่นๆ ตากฝนมาทำไม
ในเมื่อมีคนอื่นที่อยากอยู่ด้วยแล้ว
และไม่อยากให้ฉันมา
เธอจะบอกว่า.."เจอกันที่ศูนย์หนังสือฯ" ทำไม

ในหัวมีแต่คำถาม

กดโทรศัพท์
หาเพื่อน ที่เคยเรียนจุฬา
ถามว่า จากศูนย์หนังสือ มีที่ไหนนั่งได้ทั้งคืนบ้าง
ขอที่ที่ไม่ไกลนัก เพราะของหนักและฝนตก
เพื่อนบอกให้ไปแมค ชิดลม
เลยตัดสินใจ ไปแมค โรบินสัน แถวอโศก
อย่างน้อย ก็ใกล้ที่พัก
ใกล้เช้า จะได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ทัน
ถ้าไปชิดลม รถไฟฟ้าคงยังไม่เปิด ในเช้าวันถัดไป
ไม่อยากกลับห้อง
อยากไปที่ไหนสักที่
ไปให้พ้นๆ
ไปให้ไกลๆ
แต่ก็ได้แค่นั้น

ไปถึงโรบินสัน
เดินผ่านชั้นล่าง
เห็นถุงน่อง
นึกขึ้นได้ พรุ่งนี้ต้องใช้ และยังไม่มี
ให้พี่พนักงานเลือกให้ 1 คู่
จ่ายเงินเสร็จ ลงมาที่แมค

มาที่นี่เป็นครั้งที่สอง
เดินไปมุมที่เคยมาครั้งแรก
กับใครอีกคน
แต่วันนี้ มุมนั้นไม่ว่าง
และเค้าคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่นี่

คนเยอะมาก
ทั้งไทยทั้งเทศ
มีมุมว่างที่มุมสุดของด้านใน
ฝั่งแมคคาเฟ่

โต๊ะข้างๆเป็นแขก
มองยังกับเราเป็นต่างชาติ แล้วเค้าเป็นเจ้าของประเทศ
ช่างเขา
เรานั่งของเรา

หิวมาก
สั่งไก่มา 6 ชิ้น กับน้ำเปล่าอีก 1 ขวด
กินไปได้ 2 ชิ้น รุสึกว่าไม่อยากกินต่อ
รำคาญ
เบื่อ
น้ำมันเยิ้ม
เลี่ยน
เลยถือไปให้พนักงานใส่กล่องกลับบ้าน
ไม่รุว่าจะใส่ไปให้ใครกิน
แต่ก็คงดีกว่าทิ้งไว้ที่ร้าน
เสียดายของ เสียดายเงิน

กินเสร็จ หยิบหนังสือที่เพิ่งซื้อขึ้นมา
ไม่มีสมาธิอ่าน
แต่ก็พยายามอ่าน
น้ำตาจะไหลอีก
แต่ไม่ไหลอีก
อาย
เลยฟุบลงที่โต๊ะ
สักพัก
มีผุชายเข้ามาถาม
"โทษนะครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ"
"..." มัวแต่งงๆ เลยไม่ได้ตอบ
"ผมนั่งมอง เห็นคุณเหมือนไม่สบาย เป็นอะไรรึเปล่า"

"อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ แค่ง่วงๆเฉยๆ"
แล้วก็สนทนาอีกประมาณ 2-3 ประโยค เค้าก็จากไป

นั่งอยู่จนเกือบ 4 ทุ่ม
ง่วงมาก ปวดหัว ปวดตา
เบื่อ
ไม่รุจาปวดอะไรนักหนา
เสียงก็ดัง
คนก็เดินไปเดินมา โหวกเหวกโวยวาย
จะพูดเสียงดังอะไรนักหนา
อยู่ใกล้กันแค่นี้

ทนนั่งอยู่ได้อีกประมาณ 10 นาที
เลยตัดสินใจกลับห้อง

เปิดประตูห้องเข้าไป
น้องถาม
"อ้าว..."
แล้วก็ได้รุอะไรบางอย่าง
สมทบกับความคิดที่มีอยุ่เดิม
กลายเป็นอะไรที่น้ำเน่า
เหมือนในละคร

วันนั้น
เธอไม่ได้เจอกับคนที่นัดไว้
เหนื่อกาย
เพลียใจ
เจ็บข้อมือ เจ็บแขน เจ็บใจ

น้ำตาจะไหลอีกครั้ง
แต่ไม่ไหลอีกตามเคย
กลั้นใจบอกตัวเอง

"หลับไปซะ ฝันดีนะ แพรวา"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น