ถ้าจะต้องเชื่อใครสักคน
ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า...เขาแก่กว่า สูงวัยกว่า
หรือข้าพเจ้าเรียกเขาด้วยคำนำหน้าว่า "พี่" "ป้า" "น้า" "อา" "ลุง" ฯลฯ
เห็นจะเป็นการยากทีเดียว
และไม่ว่าเขาเหล่านั้น จะเป็นญาติโกโหติกาสายตรงของข้าพเจ้า
หรือสายข้างเคียงของเพื่อนสนิทมิตรสหายคนใดก็ตาม
วัยวุฒิเหล่านั้น ก็หาทำให้เกิดความน่าเชื่อถือหรือเกิดศรัทธาขึ้นโดยอัตโนมัติในตัวตนได้
หากจะเคารพ หากจะนบนอบ
ข้าพเจ้าก็เลือกที่จะมอบความไว้วางใจให้แก่ผู้มีคุณวุฒิเสียมากกว่า
และต้องมีคุณวุฒิในเรื่องที่พูด เรื่องที่บอกกล่าว หรือเตือนนั้นด้วย
มิฉะนั้น พูดอะไรอันใดออกมา
ข้าพเจ้าก็จะปล่อยให้เฉียดติ่งหูไปเสียเท่านั้น
ข้าพเจ้าไม่ประสงค์จะเป็นเด็กดี มีมรรยาท หรือเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้ใหญ่กะโหลกกะลาคนใด
ใครจะรัก ก็พึงรักในตัวตนอันแท้จริงของข้าพเจ้า
และหากจะเกลียดชัง เหม็นน้ำหน้า ในความหยิ่งยะโส
ก็ตามสบายเถิด
ขอเพียงต่างคนต่างอยู่
อยู่อย่างเงียบๆ
อย่าได้พ่นมลพิษทางเสียง
อย่าได้เอ่ยถ้อยคำเหม็นเน่าอันใดออกมาให้ระคายหู
เท่านั้นพอ
คนเราควรเลือกที่จะเสพ เลือกที่ฟัง และยิ่งต้องเลือกที่จะเชื่อ
หาใช่สักแต่ว่าเสพ ฟัง แล้วเชื่อ โดยไม่ไตร่ตรอง
ไม่ใช้สมองของตัวเองใคร่ครวญ
สุดท้ายก็กลายเป็นคนไม่มีจุดยืน
ไม่มีตรรกะอันเข้มแข็งรองรับการกระทำ
ใครว่าอะไรก็เชื่อ
ใครพูดอะไรก็โอนอ่อนผ่อนตามเป็นไม้ล้มลุก
โยกไปโยกมา
ไม้ล้มลุก จะเติบโตอย่างสูงสง่าและเป็นเสาหลักให้ผู้อื่นได้อย่างไร
คนบางคน ปล่อยความโลภ ปล่อยตัณหา ปล่อยกิเลสให้เป็นใหญ่
เอาความสุขจอมปลอมในวันนี้เป็นที่ตั้ง
ขอให้ได้สนองความใคร่ของตนเอง
พรุ่งนี้จะเป็นยังไง..ช่างหัวมัน
คนเช่นนี้
ไม่สมควรเลยที่เราจะพาตัวไปข้องแวะด้วย
รังแต่จะพาเราลงสู่ที่ต่ำ
รังแต่จะพาเราไปในทางเสื่อม
คนบางคน ตรรกะวิบัติติดแน่นในสันดาน
แก้ยาก
ก็ควรปล่อยเขาไป
หรือวางเขาไว้ในที่ของเขา
ปล่อยให้เขาไปตามครรลองที่เขาอยากไป
เรื่องของเขา
เราเป็นเพียงผู้ชม
โตๆ กันแล้ว
หาใช่เด็กเล็กที่ต้องประคับประคอง
ล้มเองก็ต้องลุกเอง
ข้าพเจ้ามิใช่คนใจร้ายที่จะมองดูคนรอบตัวเดินไปในทางเสื่อมโดยไม่ทำสิ่งใด
แต่หากความเห็นของข้าพเจ้า ไม่อาจเอาชนะตัณหาที่บังตาอย่างหนาแน่นของผู้นั้นแล้ว
ก็เห็นทีจะทำได้เพียง
ปล่อยวาง
เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
และมงคลชีวิตก็กล่าวไว้
"คบบัณฑิต ไม่คบคนพาล"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น