ตอนเด็กๆ เวลาโดนถามเกี่ยวกับเป้าหมายหรือความฝันในชีวิต
มักจะเป็นนางเอก ตอบว่า
"อยากทำงานแล้วกลับบ้านมาเจอหน้าพ่อหน้าแม่ กินข้าวด้วยกัน"
คนถามก็จะทำหน้างงๆ แล้วถามต่อว่า
"ไม่ใช่ หมายถึง อยากทำอะไร อยากเป็นอะไร งานน่ะ"
คราวนี้ เป็นข้าพเจ้าที่งงแทน
...ก็กรูยังไม่รุว่ากรูจะเป็นอะไรไง
กรูแค่อยากทำงานอะไรก็ได้ ที่เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงพ่อแม่ได้
โดยที่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย ไม่ต้องทำงานงกๆ แล้วไม่มีเวลาให้ใคร
ตอนนั้น คนที่บ้าน ก็หมายถึงแค่คนที่บ้าน
หมายถึงพ่อ หมายถึงแม่
เพราะตอนเด็กๆ จะมีใครอีกที่สำคัญในชีวิต นอกจากพ่อกับแม่
กระนั้น
โตขึ้นมา คำตอบนี้มันก็ยังฝังจิตฝังใจอยู่ดีนั่นล่ะ
เพราะยังไง
การต้องใช้ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบ โดยไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่อใคร
ปัจจุบันต้องโดดเดี่ยว ต้องเหนื่อย ต้องท้อ เพื่ออะไร
ถ้าจะรอมีความสุขแค่อนาคต (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีไหม เมื่อไหร่ อะไร ยังไง)
ก็ดูโหดร้ายกับชีวิตมากเกินไป
อาจไม่มีพรุ่งนี้แล้วก็ได้ รู้ๆ กันอยู่
ทำเพื่อพ่อแม่ แต่ไม่ได้อยู่ดูแลพ่อแม่
ทำเพื่อคนรัก แต่ไม่มีโอกาสใช้เวลาแสดงความรัก
ไม่มีใครต้องการอย่างนั้นหรอก
แต่ตอนนี้
ทำงาน หาเงิน ทำนู่นนี่นั่น
ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่
มีคนสำคัญในชีวิตเพิ่มมาจากพ่อแม่
ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ
มันเป็นความทรมาน สำหรับปัจจุบันเหมือนกันนะ
เวลาเหนื่อย ท้อ มันจะยิ่งเหนื่อยหนัก ท้อหนัก
เพราะเรี่ยวแรงและพลังที่จะใช้เป็นกำลังขับเคลื่อนชีวิต
มันมีน้อย
เพราะฉะนั้น การปรารถนาที่จะอยู่กับพ่อแม่ คนที่รัก
ก็คือการเติมพลังให้ตัวเองในทุกๆ วัน
มันหายเหนื่อย เจอปัญหามันก็ไม่ท้อ เจองานหนักมันก็ไม่หวั่น
ป่วย เดี๋ยวก็หาย
ชีวิตอาจจะหนัก แต่เราจะไม่เหนื่อยเกินไป
งานอาจจะเยอะ เราก็พร้อมจะเดินหน้าไปเรื่อยๆ
ปัญญาอาจจะมี เราก็พร้อมจะสู้
ต้องยอมรับว่า หัวใจ ขาดความอบอุ่น ไม่ได้จริงๆ
และเมื่อต้องยอมสละความอบอุ่นเหล่านั้น
เพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง
ที่เลื่อนลอย และมีค่าแค่ในอนาคต
มันก็แทบจะไม่มีกำลังใจ ที่จะกระดิกตัวทำอะไรเลย
หรือบางที ไม่ต้องมีหรอกอนาคต
หรือบางที
ต้องยอมรับว่า ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ
และบางที
ต้องเข้าใจว่า ไปด้วยกันไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น