24 ม.ค. 2555

รุ่นพี่

เมื่อสักครู่

เข้าไปดูบล็อกของใครคนหนึ่ง

ซึ่งอยู่ดีๆ ก็นึกถึงขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

ความจริง เป็นเช่นนี้บ่อยเหมือนกัน

ไม่ค่อยได้นึกถึงพี่คนนี้สักเท่าไหร่

แต่เมื่อได้นึกถึงทีไร จะต้องได้เข้าไปเยี่ยมชมพื้นที่ของเขา

ชมนู่นี่นั่น เนิ่นนาน
.
.
.
พี่เขาโตขึ้นมาก

เก่งขึ้นมาก

และก้าวหน้าขึ้นมาก

แน่นอน คนเราก็ต้องเดินไปข้างหน้าอยู่แล้ว

โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงไฟฝันลุกโชน

ไม่เจอกันไม่ถึงปี

เจออีกที อาจงงๆ และมึนๆ กับความเปลี่ยนแปลง
.
.
.
หน้าตาไม่เปลี่ยน

แนวความคิด และกลิ่นอายตัวตนไม่เปลี่ยน

ยังมีมุมมองที่ส่องโลกในวิถีทางเช่นเดิม

สัมผัสได้เช่นนั้น
.
.
.
ความจริง เราอายุห่างกันแค่ประมาณ 1 ปี

ฉันอยู่ ม.1  เขาอยู่ ม.2

ไล่ๆกันขึ้นมาเช่นนั้น ตามระบบการศึกษา
.
.
.
เราไม่สนิทกันหรอก แค่รู้จักกันเท่านั้น
.
.
.
ตอนที่เรียนมัธยม ฉันออกจะค่อนไปทางไม่ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ด้วย

ทั้งๆที่เรื่องราวของเขาก็คือเรื่องราวของเขา

ชีวิตเขา ก็คือชีวิตเขา

ไม่ได้มีเส้นตัดผ่านมายังชีวิตฉันเลยสักนิด
.
.
เขาเป็นคนดังของโรงเรียน

รุ่นน้องผู้หญิงกรี๊ดเขาพอสมควร

อาร์ตมาตั้งแต่เด็กๆ

วาดรูปสวย

ทำตัวเท่ บางคนจึงว่า เขาขี้เก๊ก

.
.
เมื่อตอนเรียน ม.ต้น

หลังเลิกเรียน ฉันมักได้เดินตามหลังเขา ออกไปขึ้นรถประจำทางกลับบ้านบ่อยๆ

อื้ม..เราขึ้นรถสายเดียวกัน

บ้านเขาถึงก่อนบ้านฉันแป๊บเดียว

.
.
ฉันชอบมอง เขาเดินกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง

ใครๆก็ว่า เขาเป็นแฟนกัน

ฉันก็คิดเช่นนั้น

แต่ความจริงเป็นยังไง ไม่อาจรู้ได้

มันเรื่องของเขา

แล้ววันหนึ่ง

ภาพนั้นก็หายไป

.
.
ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอีกนั่นแหละ

แต่กลับอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้

ความหม่นหมอง ข้องใจ เกิดขึ้นโดยรู้ตัวแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
.
.
.
เราคุยกันครั้งแรก ผ่านทาง hi5

ตอนนั้น พี่เขาอยู่ปี 4
.
.
.
ไปๆมาๆ จับพลัดจับผลู

เขากลายมาเป็นครูสอนฉันวาดรูป

รูปแรกในชีวิต ที่ตั้งใจวาด

(ไม่นับการวาดตามมีตามเกิดเพื่อเอาคะแนนในวิชาศิลปะนะ)

เป็นรูปนุ่ม วาดจากรูปถ่าย

ฉันเตรียมกระดาษและดินสอไปเอง

แต่ที่ลงมือวาดจริง กลับใช้เป็นกระดาษ และดินสอของพี่เค้า (ซะงั้น)

วาดเสร็จ ให้นุ่ม..เป็นของขวัญปีใหม่

.
.

.
.
.
หลังจากนั้น ก็เหมือนกึ่งๆคุย กึ่งๆหาย

แล้วรู้ข่าวอีกที ก็ตอนพี่เขาจับได้ใบแดง ไปเป็นทหาร

.
.
ไปนั่งที่ร้านฮาจิบัง พี่เขากินหมี่เย็น

กินไป คุยไป
.
.
บอกกับพี่เขาว่า จะเขียนจดหมายไปหา

แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง

สุดท้ายก็ไม่ได้ส่งไป
.
.
ได้รับจดหมายจากพี่เขา

ดีใจมาก แต่ก็แอบเสียใจ

ที่เราไม่ได้ส่งให้เขา

คิดอยู่นาน...สุดท้ายก็ไม่ได้ส่ง ฮ่าๆ

จนถึงทุกวันนี้ กล่องนั้น ยังอยู่เช่นเดิม
.
.
.
เคยไปยืนอ่านหนังสือของพี่เขา ที่วางแผงแล้ว

กำแพงความรัก

อ่านแล้ว ก็ดี

แต่ไม่ค่อยอิน และไม่มีแนวความคิดใหม่ๆเกิดขึ้นในหัว

จึงไม่ได้ซื้อ

ถึงกระนั้น ก็ยังคงไปยืนเปิดในอีกหลายๆครั้งต่อมาที่ไปพบตามร้านหนังสือ

จะช่วยซื้อดีไหม

ถ้าใช้คำว่าช่วยซื้อ คนสร้างคงไม่ค่อยภูมิใจเท่าไหร่กระมัง

รอเล่มอื่น ที่โดนใจเราจริงๆ ค่อยว่ากัน
.
.
.
เข้าไปดูในบล็อก ทำให้รู้ว่า

ปกมูราคามิ เซ็ท 3 เล่ม

Pinball 1973-A Wild Sheep Chase-Hear the Wind Sing

เป็นฝีมือพี่เขาเอง

น่าปลื้มใจแทนเหมือนกันนะ
.
.
ถ้าไม่บอกและยืนยันด้วยตัวเอง

คงไม่เชื่อว่า เขาคนนี้..ตาบอดสี

ความจริง ศิลปินผู้โด่งดังหลายคน

กำเนิดมาด้วยความไม่ครบในบางส่วน

แต่ก็นั่นแหละ เขาเหล่านั้น

มักจะมีส่วนอื่น เกินออกมา เป็นสิ่งทดแทนอยู่เสมอ
.
.
เป็นกำลังใจ และเฝ้าดู..อยู่ห่างๆ

.
.
ศรัทธา แสงทอน





ปล.เบอร์โทรศัพท์บ้านพี่เขากับบ้านฉัน ต่างกันแค่เลขเดียว

เลขท้าย 3 ตัว - 123 และ 133

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น