เมื่อสักครู่
เข้าไปดูบล็อกของใครคนหนึ่ง
ซึ่งอยู่ดีๆ ก็นึกถึงขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ความจริง เป็นเช่นนี้บ่อยเหมือนกัน
ไม่ค่อยได้นึกถึงพี่คนนี้สักเท่าไหร่
แต่เมื่อได้นึกถึงทีไร จะต้องได้เข้าไปเยี่ยมชมพื้นที่ของเขา
ชมนู่นี่นั่น เนิ่นนาน
.
.
.
พี่เขาโตขึ้นมาก
เก่งขึ้นมาก
และก้าวหน้าขึ้นมาก
แน่นอน คนเราก็ต้องเดินไปข้างหน้าอยู่แล้ว
โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงไฟฝันลุกโชน
ไม่เจอกันไม่ถึงปี
เจออีกที อาจงงๆ และมึนๆ กับความเปลี่ยนแปลง
.
.
.
หน้าตาไม่เปลี่ยน
แนวความคิด และกลิ่นอายตัวตนไม่เปลี่ยน
ยังมีมุมมองที่ส่องโลกในวิถีทางเช่นเดิม
สัมผัสได้เช่นนั้น
.
.
.
ความจริง เราอายุห่างกันแค่ประมาณ 1 ปี
ฉันอยู่ ม.1 เขาอยู่ ม.2
ไล่ๆกันขึ้นมาเช่นนั้น ตามระบบการศึกษา
.
.
.
เราไม่สนิทกันหรอก แค่รู้จักกันเท่านั้น
.
.
.
ตอนที่เรียนมัธยม ฉันออกจะค่อนไปทางไม่ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ด้วย
ทั้งๆที่เรื่องราวของเขาก็คือเรื่องราวของเขา
ชีวิตเขา ก็คือชีวิตเขา
ไม่ได้มีเส้นตัดผ่านมายังชีวิตฉันเลยสักนิด
.
.
เขาเป็นคนดังของโรงเรียน
รุ่นน้องผู้หญิงกรี๊ดเขาพอสมควร
อาร์ตมาตั้งแต่เด็กๆ
วาดรูปสวย
ทำตัวเท่ บางคนจึงว่า เขาขี้เก๊ก
.
.
เมื่อตอนเรียน ม.ต้น
หลังเลิกเรียน ฉันมักได้เดินตามหลังเขา ออกไปขึ้นรถประจำทางกลับบ้านบ่อยๆ
อื้ม..เราขึ้นรถสายเดียวกัน
บ้านเขาถึงก่อนบ้านฉันแป๊บเดียว
.
.
ฉันชอบมอง เขาเดินกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง
ใครๆก็ว่า เขาเป็นแฟนกัน
ฉันก็คิดเช่นนั้น
แต่ความจริงเป็นยังไง ไม่อาจรู้ได้
มันเรื่องของเขา
แล้ววันหนึ่ง
ภาพนั้นก็หายไป
.
.
ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอีกนั่นแหละ
แต่กลับอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้
ความหม่นหมอง ข้องใจ เกิดขึ้นโดยรู้ตัวแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
.
.
.
เราคุยกันครั้งแรก ผ่านทาง hi5
ตอนนั้น พี่เขาอยู่ปี 4
.
.
.
ไปๆมาๆ จับพลัดจับผลู
เขากลายมาเป็นครูสอนฉันวาดรูป
รูปแรกในชีวิต ที่ตั้งใจวาด
(ไม่นับการวาดตามมีตามเกิดเพื่อเอาคะแนนในวิชาศิลปะนะ)
เป็นรูปนุ่ม วาดจากรูปถ่าย
ฉันเตรียมกระดาษและดินสอไปเอง
แต่ที่ลงมือวาดจริง กลับใช้เป็นกระดาษ และดินสอของพี่เค้า (ซะงั้น)
วาดเสร็จ ให้นุ่ม..เป็นของขวัญปีใหม่
.
.
.
.
.
หลังจากนั้น ก็เหมือนกึ่งๆคุย กึ่งๆหาย
แล้วรู้ข่าวอีกที ก็ตอนพี่เขาจับได้ใบแดง ไปเป็นทหาร
.
.
ไปนั่งที่ร้านฮาจิบัง พี่เขากินหมี่เย็น
กินไป คุยไป
.
.
บอกกับพี่เขาว่า จะเขียนจดหมายไปหา
แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง
สุดท้ายก็ไม่ได้ส่งไป
.
.
ได้รับจดหมายจากพี่เขา
ดีใจมาก แต่ก็แอบเสียใจ
ที่เราไม่ได้ส่งให้เขา
คิดอยู่นาน...สุดท้ายก็ไม่ได้ส่ง ฮ่าๆ
จนถึงทุกวันนี้ กล่องนั้น ยังอยู่เช่นเดิม
.
.
.
เคยไปยืนอ่านหนังสือของพี่เขา ที่วางแผงแล้ว
กำแพงความรัก
อ่านแล้ว ก็ดี
แต่ไม่ค่อยอิน และไม่มีแนวความคิดใหม่ๆเกิดขึ้นในหัว
จึงไม่ได้ซื้อ
ถึงกระนั้น ก็ยังคงไปยืนเปิดในอีกหลายๆครั้งต่อมาที่ไปพบตามร้านหนังสือ
จะช่วยซื้อดีไหม
ถ้าใช้คำว่าช่วยซื้อ คนสร้างคงไม่ค่อยภูมิใจเท่าไหร่กระมัง
รอเล่มอื่น ที่โดนใจเราจริงๆ ค่อยว่ากัน
.
.
.
เข้าไปดูในบล็อก ทำให้รู้ว่า
ปกมูราคามิ เซ็ท 3 เล่ม
Pinball 1973-A Wild Sheep Chase-Hear the Wind Sing
เป็นฝีมือพี่เขาเอง
น่าปลื้มใจแทนเหมือนกันนะ
.
.
ถ้าไม่บอกและยืนยันด้วยตัวเอง
คงไม่เชื่อว่า เขาคนนี้..ตาบอดสี
ความจริง ศิลปินผู้โด่งดังหลายคน
กำเนิดมาด้วยความไม่ครบในบางส่วน
แต่ก็นั่นแหละ เขาเหล่านั้น
มักจะมีส่วนอื่น เกินออกมา เป็นสิ่งทดแทนอยู่เสมอ
.
.
เป็นกำลังใจ และเฝ้าดู..อยู่ห่างๆ
.
.
ศรัทธา แสงทอน
ปล.เบอร์โทรศัพท์บ้านพี่เขากับบ้านฉัน ต่างกันแค่เลขเดียว
เลขท้าย 3 ตัว - 123 และ 133
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น