หนูเบื่อออฟฟิศ ออฟฟิศทำหนูปวดหลัง ปวดไหล่ เป็นไข้ ปวดหัว
ออฟฟิศแคบๆ กักขังจินตนาการ
ออฟฟิศกลมๆ เดินวนไปวนมา อากาศไม่ระบายถ่ายเท
ออฟฟิศเย็นๆ ทำหนูป่วยไข้
หนูไม่อยากอยู่ในออฟฟิศ
.
.
.
แล้วจะไปอยู่ไหน?
แล้วจะไปทำอะไร?
.
.
หนูอยากเดินทาง เที่ยวชมธรรมชาติ
ดูนก ชมไม้ กินผัก กินผลพืช
นั่งล้อมวงกินข้าว ผักสดผักลวกจิ้มน้ำพริก
วิ่งตากแดด ปีนต้นไม้ ปั่นจักรยาน
.
.
.
โตขึ้นหนูจะเป็นเกษตรกร
หนูจะช่วยตาใส่น้ำลำไย ช่วยยายมัดผักไปขายที่ตลาด
หนูจะไปเป็นสาวเชียงใหม่
เหมือนที่ยายเคยหัดให้ร้องเพลง
"ข้าเจ้าเป็นสาวเจียงใหม่ แหมบ่เต้าใดก่อจะเป็นสาวแล้ว"
หนูจะเป็นสาวแล้ว ไปเป็นสาวอยู่เมืองเหนือ ลูกหลานแม่ปิง
หนูเบื่อกรุงเทพฯ เบื่อความแออัด เบื่อความคับแคบ
หนูเกลียดความเห็นแก่ตัว รังเกียจความละโมบโลภมาก
ที่นี่มันส่งกลิ่นรุนแรงเหลือเกิน
ขอกลั้นหายใจจนตายดีกว่าสูดเข้าไปในกายตนเอง
.
.
หนูจะไปเป็นอาร์ติสต์
อาร์ติสต์ผู้มีอิสระในหัวใจ
โลดแล่นไปตราบเท่าที่กำลังยังมี
หนูไม่อยากถูกกักขัง ไม่อยากอยู่ในกรง
ไม่อยากอยู่ในกรอบ ใครสร้างมันขึ้นมาก็เข้าไปอยู่เองเถิด
ทำไมต้องเรียนสูงๆ ทำไมต้องทำงานดีๆ ทำไมต้องมีเงินเยอะๆ
ทำไมห้ามท้องก่อนแต่ง
ทำไมต้องทำงานจนหัวหงอกแล้วค่อยเกษียณ
ทำไมต้องรอให้สังขารใกล้แตกดับและค่อยระงับความโลภความอยาก
ทำไมต้องรอให้แก่แล้วจึงเข้าวัด
จะอยู่จนแก่รึเปล่ายังไม่รู้
ทำไมต้องกำหนดกฎเกณฑ์แบบแผนชีวิตที่จัดว่าดี
ดีไม่ดีอยู่ที่ไหน ใครตัดสิน
หนูไม่ยอม หนูไม่ยอม หนูไม่ยอม
.
.
หนูจะไปเป็นเกษตรกร
หนูจะไปเป็นอาร์ติสต์
หนูจะโบยบิน
หนูเป็นสาวแล้ว
หนูจะเลือกชีวิตของหนูเอง
.
.
.
เด็กหญิงแพรวา มั่นพลศรี
อายุ 22 ปี 3 เดือน 5 วัน
ไปกัน
ตอบลบไปโลด ฮ่าๆๆ
ตอบลบ