23 ส.ค. 2555

อวัยวะ ว่าด้วยความเชื่อ ของใครของมัน

ประมาณสองปีมาแล้ว ที่ข้าพเจ้าแสดงความประสงค์

บริจาคอวัยวะ 

เพื่อต่ออายุให้แก่ผู้ป่วย ในยามที่ข้าพเจ้าตายจากไป

การบริจาคนี้ รวมถึงดวงตา และอวัยวะทุกส่วนที่สามารถใช้การได้

ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่แน่ใจนัก ว่าถึงวันนั้น ยังจะมีอะไรที่สามารถใช้ได้อยู่บ้าง

และแม้ความจริง อวัยวะยังสมารถใช้ได้

ก็ใช่ว่าข้าพเจ้าจะตายอย่างสวยงาม ให้อวัยวะยังสมบูรณ์

แต่กระนั้น ก็ยังดีที่ได้ลงทะเบียนไว้

อย่างน้อยก็ได้สร้างโอกาสให้แก่ตัวเอง


ข้าพเจ้าเชื่อในหลักศาสนา

เมื่อตายไป ก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้

เหลือเพียงกรรมดีกรรมชั่วเท่านั้น ที่จะติดตามเราไปยังภพหน้าชาติหน้า

ร่างกายแขนขาในชาตินี้ ก็หาได้เอาไปใช้ในชาติถัดไปแต่อย่างใด

ข้าพเจ้าจึงไม่ลังเล ที่จะอนุญาตให้สังขารอันข้าพเจ้าไม่ได้ใช้อีกต่อไป

ได้ส่งต่อไปทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นบ้าง


ความจริง ญาติๆ ของข้าพเจ้าไม่ใคร่เห็นด้วยนัก

พร่ำห้าม และบ่นอยู่เสมอ

ด้วยความเชื่อที่ว่า ชาติหน้าจะอวัยวะไม่ครบ

หรือแม้ข้าพเจ้าลงนามบริจาคไปแล้ว

ยายก็ยังบ่น บอกว่า ทำไมไม่รอให้อายุเยอะกว่านี้หน่อย

จะรีบไปทำไม

ความจริงก็คือ ท่านทั้งหลาย มองว่า การกระทำของข้าพเจ้าคล้ายๆ จะเป็นการแช่งตัวเอง



ข้าพเจ้าไม่อาจห้ามความคิดใคร และไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดใครด้วย

ข้าพเจ้าเพียงอธิบายเหตุผล ในส่วนของข้าพเจ้า ก็เท่านั้น



มีคนบอกข้าพเจ้าว่า

เค้าอยากจะบริจาคอวัยวะอยู่เหมือนกัน 

แต่เค้าไม่บริจาค เพราะถึงเราบริจาคไป ด้วยใจที่อยากให้ อยากทำบุญ

คนที่เอาไป ก็เอาไปขาย เอาเงินอยู่ดี


ข้าพเจ้ารับฟัง

แต่ความตั้งใจก็หาได้เปลี่ยนไป


ข้าพเจ้าเชื่อว่า ในเมื่อความตั้งใจ คือการบริจาค

เพื่อต่ออายุให้ใครสักคน ในกรณีที่อวัยวะเราสามารถทำได้

ก็เพียงแค่บริจาคไปเท่านั้น


ส่วนใครจะได้ไป ด้วยวิธีการอันใด มันก็เป็นเรื่องของการจัดสรร

ตามแก่กรรมใครกรรมมัน

อย่างน้อย ถ้าในยุคสมัยปัจจุบัน การได้มาซึ่งทรัพย์ใดๆ ล้วนต้องใช้เงิน

นั่นก็หมายความว่า คนที่จะมีสิทธิได้อวัยวะเพื่อต่ออายุ ก็คือคนมีเงิน

แล้วคนที่มีเงิน ในชาตินี้ หมายถึงอะไร

ก็หมายความว่าในชาติก่อนๆ เขาได้ทำทาน บริจาคทรัพย์ของตนเพื่อผู้อื่นมาก่อนเช่นกัน


ส่วนคนจน ที่ไม่มีเงิน ไม่มีโอกาสได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ

ก็อาจหมายความว่า ชาติก่อนๆ เขาอาจตระหนี่ถี่เหนียว และไม่รู้จักการแบ่งปันให้ผู้อื่น ก็ย่อมได้


เราไม่อาจมองแค่เพียงชาตินี้ แล้วตัดสินว่าอะไรยุติธรรม หรือไม่ยุติธรรม

ในเมื่อข้าพเจ้าเชื่อในกฎแห่งกรรม

ข้าพเจ้าก็ย่อมเคารพในการตัดสินโดยผลแห่งการกระทำ

ผู้ที่จะได้อวัยวะไป ย่อมได้รับการคัดสรรมาแล้ว

ว่าสมควรอยู่ต่อไป

ก็เท่านั้น



ทุกสิ่งทุกอย่าง มีหนทางความเป็นไปของตัวเอง

กรรมใครกรรมมัน

เพราะมีสิ่งหนึ่ง อีกสิ่งหนึ่งจึงมี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น