22 พ.ค. 2555

เรื่องจริงผ่านใจ case study หมายเลข 2

ฉาก : ถนนอโศกมนตรี ช่วงเวลา 4 โมงเย็น รถติดเป็นเรื่องธรรมดา

ตัวละคร :

1. หญิงสาวผู้ขับรถ Vios สีขาว

2. คนขับรถมอเตอร์ไซด์ ท่าทางเหมือนแมสเซ็นเจอร์


เรื่องมีอยู่สั้นๆ ว่า

หญิงสาวขับรถบนเส้นทางนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว

รถค่อยๆ เคลื่อนไป เพราะการจราจรติดขัด

สักพัก มีรถเก๋ง accord โผล่มาจากด้านซ้าย

เธอต้องเบรคกะทันหัน

แล้วก็ได้ยินเสียง "โครม"

.
.
มอเตอร์ไซด์ชนท้ายรถเธอ

ความจริงมีมอเตอร์ไซด์ตามท้ายหลายคัน

แต่มีคันเดียวที่เบรคไม่อยู่


เธอรีบกดไฟฉุกเฉิน แล้วลงไปดูรถ

เห็นท่าทางชายแมสเซ็นเจอร์ผู้ขี่มอเตอร์ไซด์ชนท้ายรถเธอ

เหมือนรู้สึกผิดมาก

เขาไม่หนี

ทั้งที่ถ้าจะหนี ก็อาจทำได้ เพราะมอเตอร์ไซด์คันอื่นๆ ก็หายไปหมดแล้ว

(ทักษะในการซอกแซกของมอเตอร์ไซด์ คงทราบกันดี)

หญิงสาวเอามือลูบตรงที่ถูกชน

ไม่มีรอยบุบ

ไม่มีรอยสีถลอก

มีเพียงรอยสีแดงจากบังโคลนมอเตอร์ไซด์

มาเปื้อนสีขาวของรถเธอ

ไม่ใหญ่เท่าไร



หญิงสาวชั่งใจ

คิดว่ารถไม่ถลอก ไม่บุบ

มีแค่สีเปื้อน แค่ขัดหรือเคลือบสีใหม่ ก็น่าจะได้

กอปรกับพิจารณาคนขับมอเตอร์ไซด์แล้ว

เขาคงไม่พร้อมจะชดใช้อะไรให้

และรถก็ติด

เธอจึงบอกไม่เอาเรื่องแก่เขา



ชายคนนั้น รีบขอบคุณด้วยความรวดเร็ว

และยอมรับผิด พร้อมกับบอกว่า

"ผมเอาไม่อยู่จริงๆ ครับ"


คู่กรณี ที่ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องมีราว ก็แยกย้ายกันไป


ทว่า เมื่อหญิงสาวกลับมาถึงที่พัก

ตรวจดูความเรียบร้อยของรถ

ดูตรงรอยใหม่ที่เกิดขึ้น

เอามือลูบๆ อีกครั้ง

แต่คราวนี้ ลูบไปถึงข้างใต้

โอ้วพระเจ้า ด้านล่างของกันชน

แตกไปเป็นรอยยาว 2-3 นิ้ว

แต่ไม่ห้อยไม่ผิดรูปไปจากเดิม

(ถ้าไม่ก้มไปดู ก็จะไม่เห็นหรอก)



หญิงสาวมานั่งพิจารณาอีกครั้ง

ตั้งแต่ตอนที่ชน เกิดเอะใจว่าเสียงดังขนาดนั้น

ไม่ยักมีรอย

เธอพลาดเอง ที่ไม่ได้ดูให้ถ้วนถี่

และไม่รู้ว่า การชนในลักษณะแบบใด จะทำให้เกิดแผลอย่างไรได้บ้าง


แต่ที่ต้องกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งให้ละเอียดก็คือ

คนขับมอเตอร์ไซด์ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าข้างใต้ต้องเป็นอะไรสักอย่าง

เพราะส่วนที่สีมาเปื้อนคือบังโคลน

งั้นส่วนที่เป็นล้อ ซึ่งยื่นออกมา ก็ต้องอัดเข้ากับด้านล่างของกันชน

ใช่แล้วล่ะ  เขาเป็นคนที่เห็นลักษณะการชนได้ชัดเจนที่สุด




ท่าทางของเขา ทำให้หญิงสาวไว้เนื้อเชื่อใจ

และเลือกที่จะใช้ความเมตตา

มากกว่าใช้ปัญญาในการจัดการเรื่องราวที่เกิดขึ้น


ทว่า ภายใต้ท่าทางเหล่านั้น

เขาปกปิด สิ่งที่เขากระทำไว้

อย่างมิดชิด

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ท่าทางที่ดี ช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดได้จริงๆ


และเรื่องนี้ คงสอนให้หญิงสาวได้รู้ว่า

อย่าเชื่อใน "ท่าทาง" ของคน

เพราะมันอาจไม่ใช่เรื่องจริงที่ผ่านมาจากใจ


หมายเหตุ : หญิงสาวก็ต้องเคลมประกันเองไปตามระเบียบ พร้อมกับเตรียมรับการมีประวัติการชน

และค่าเบี้ยประกันที่สูงขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น