22 ธ.ค. 2554

ความเขินอายของหัวใจบอบบาง

รักใคร ถ้าไม่บอกออกไป แล้วเค้าจะรู้ไหม

ห่วงใคร ไม่แสดงให้รู้ เค้าคงไม่อาจเดา

หรือบางครั้ง รู้ทั้งรู้ แต่อยากได้ยินเสียง อยากเห็นแววตา ว่าห่วงกัน

.
.
อาการเก็บนิ่งของอารมณ์หรือความรู้สึก

เคยคิดว่า มักเกิดกับผู้ชาย

เพศที่เข้มแข็งและมักทำตามเหตุผล

แต่ในความเป็นจริง

ผู้หญิงก็เป็นได้

.
.
ใช่ว่าไม่รัก ใช่ว่าไม่ห่วง ใช่ว่าไม่หวง ใช่ว่าไม่หึง

แต่บางสิ่ง โดยเฉพาะสามัญเรื่องราว

ที่ใครๆก็รู้กัน

ยิ่งไม่อาจเห็นว่าสำคัญที่จะต้องพูด

หรือแม้เห็นว่าสำคัญ..ก็อายและจักจี้หัวใจ

เกินกว่าจะเอ่ยปากไป
.
.
ขอโทษ ถ้าคำพูดของฉัน ไม่อาจทำให้เธอรับรู้ได้ว่าฉันห่วง

ขอโทษ ถ้าแววตาของฉัน สื่อถึงเธอไม่ได้ ว่าฉันรักเธอมากเพียงใด

แต่ก็อยากให้รู้ แม้เธอจะอ่านฉันไม่ได้

ฉันก็รักเธอ
.
.
.
คนสำคัญในชีวิตฉัน..มีไม่กี่คน

ฉันพูดประโยคนี้บ่อยๆ

และมันหมายความเช่นนั้นจริงๆ

ฉันอาจดูอ่อนโยน

ฉันอาจดูเป็นมิตร อาจพูดคุยหยอกล้อ

หรือแม้อาจนั่งเป็นเพื่อน สำหรับใครหลายคน

แต่ไม่ใช่ทุกคน ที่สำคัญ

ฉันเหนื่อยง่าย เกินกว่าจะแบกทุกคนไว้บนบ่าได้หมด

แต่ฉันก็พยายาม ดูแลทุกคนที่ฉันแบก

ให้ดีที่สุด

ความพยายามสำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง เป็นธรรมดา
.
.
แต่อยากให้รู้

ฉันจะไม่ปล่อยให้คนบนบ่า ต้องเสียน้ำตาโดยง่ายดาย

ใครจะทำร้าย ก็ต้องผ่านร่างกาย ผ่านหัวใจ ผ่านฉันไปก่อน

ก็เป็นคนแบกนี่นา

หรือแม้พลาดพลั้ง ไม่อาจปกป้องคนบนนั้นได้

ฉันก็จะยอม ให้น้ำตาที่หลั่ง ไหลรินมาเปียกบ่า เปียกร่างกาย

ให้ฉันได้ร่วมรับรู้ความเจ็บปวด ให้ได้เปียกปอนไปด้วยกัน
.
.
เพื่อคนสำคัญ บางครั้งก็ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด

เกินตัวไม๊..อาจใช่ในบางสถานการณ์

แต่คำว่าเกินตัว มักมาจากการมองของผู้อื่น

สำหรับฉัน ไม่มีคำว่าเกิน สำหรับคนสำคัญ

จะมีก็..ขาดไป เสียมากกว่า

.
.
คนสำคัญก็คือคนสำคัญ

อดีต ถึงปัจจุบัน ไม่เปลี่ยนแปลง

แม้บอกรักไม่บ่อย..ใช่ว่าจะรักน้อยลง



.
.
.
รักก็คือรัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น