แล้วพระเจ้า.. ก็นำเอาความหวานของเกสรดอกไม้ นำเอาความแปรปรวนของกระแสลม นำเอาความปราดเปรียวของกวาง นำเอาความดุร้ายของเสือโคร่ง นำเอาความลึกลับของทะเลมารวมกัน แล้วพระองค์กล่าวว่า.. ....จงเป็นผู้หญิง!!
28 ต.ค. 2556
ทื่อมะลื่อ
หลายครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองบ้าดีเดือดและทื่อมะลื่อเกินไป
คนรักเคยเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ให้แพรวารู้จักเอาตัวรอด
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
อย่าไปแข็งกระด้าง สู้กันตรงๆ มากเกินไปนัก
คนที่เราสู้ด้วยอาจไม่ใช่คนที่เราสมควรตรงด้วย
อาทิ..ตำรวจจราจรห่วยๆ
ที่ตั้งด่านโดยการเอารถตำรวจมาจอดข้างทางแล้วยืนโบกกันอยู่ 2 คน
ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับการยื่นบัตรข้าราชการให้ดู
หรือเหน็บเงินเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์นั้น
แต่ก็นึกไม่ออกว่าถ้าต้องเจอเหตุการณ์เช่นนั้นเพียงลำพัง จะทำเช่นไร
หรือยามเมื่อถูกกล่าวหาอะไรบางอย่าง
ถูกตั้งคำถามว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าทำนั่น..มันใช่หรือ
ข้าพเจ้าพร้อมจะอธิบาย พร้อมจะชี้แจง
แต่ปัญหาคือ การอธิบายอาจตรงเกินไป แข็งกระด้างเกินไป
อาจสื่ออย่างชัดเจนเกินไปว่าเป็นความผิดของคุณเองที่ไม่ศึกษา
ไม่อ่าน ไม่ฟัง แล้วสุดท้ายก็ไม่เข้าใจในเรื่องนั้น
ช่วงหลังมานี้ บางเหตุการณ์ทำให้ตระหนักได้ว่า
ระดับความทื่อมะลื่อมีมากเกินไปแล้ว
และมันอาจเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าบางอย่างในชีวิต
ข้าพเจ้ามีตัวอย่างของคนที่เอาตัวรอดเก่งๆ ให้เห็นอยู่เสมอ
ตั้งแต่เริ่มเข้าสังคม เริ่มทำกิจกรรมกับผู้อื่น
เริ่มทำงาน
แต่ก็ไม่เคยเอานิสัยนั้นมาทำให้เป็นของตัวเองได้เสียที
และหลายครั้งก็มานั่งเคียดแค้นคนอื่นๆ แทน
กลายเป็นว่า
ทำไมคนเสนอแต่หน้าดีๆ กลับได้ดีกว่า
ทั้งที่การกระทำก็เหมือนกัน
หรืออาจเลวร้ายกว่าเราเสียด้วยซ้ำ
ทำไมไม่มองกันที่ผลงาน
ไม่ตัดสินกันด้วยเหตุด้วยผลที่รอบด้าน
ไม่พิจารณาตามความเป็นจริง
กลับไปเห็นแต่สิ่งที่เขาเสนอ
ซึ่งแน่นอน มีความลวงเจือปนไปเกินครึ่ง
ข้าพเจ้ารังเกียจความอยุติธรรม
มันเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่มีภูมิต้านทานกับการต้องเผชิญเลย
แต่ความจริง จะไปโทษเขาก็ใช่เรื่อง
ใครจะบ้าเป็นตัวของตัวเอง
ใครจะบ้าทำให้คนอื่นเห็นกันโต้งๆ ว่าตัวเองไม่ดี
หากเราขี้เกียจ ใครจะบ้าแสดงให้เจ้านายเห็นว่าเราขี้เกียจ
หากเราทำงานพลาด ใครจะบ้าบอกลูกค้า บอกลูกความตรงๆ ว่าเราทำพลาด
ก็ต้องไหลลื่นไป แถไป ผัดผ่อนไป โบ้ยไป
บางครั้ง เราต้องยอมให้ตัวเองมีนิสัยแย่ๆ
เพื่อจะได้ยืนอยู่ในจุดเยี่ยมๆ
แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
การไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง
ข้าพเจ้าคงเป็นได้ไม่นาน
ข้าพเจ้ามีข้อบกพร่อง
มีจุดไม่ดี
ก็ตามที่คนอื่นๆ เห็นนั่นแล
เชิญตัดสินข้าพเจ้าได้จากสิ่งที่ข้าพเจ้าเป็น
อย่าให้ข้าพเจ้าต้องแสร้งกระทำเพื่อให้ความคิดนั้นเปลี่ยนแปลงไปเลย
ข้าพเจ้ายินดียอมรับ
เมื่อการตัดสินนั้น มาจากการพินิจในตัวตนของข้าพเจ้าจริงๆ
ปล่อยข้าพเจ้าไว้ในความทื่อมะลื่อต่อไปเถิด
สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากทำในขณะนี้
หาใช่การโน้มเนียนเปลี่ยนสีตัวเองไปตามสภาพแวดล้อม
แต่เป็นการยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง
และไม่หวั่นไหวต่างหาก
ข้าพเจ้าตระหนักแล้วว่า
พักหลังๆ มานี้
คงห่างหายจากการนั่งสมาธิภาวนามากเกินไป
กราฟอารมณ์จึงขึ้นๆ ลงๆ เหวี่ยงแรงราวตลาดหุ้นไทย
ทั้งที่ไม่ควรเลย
ไม่ควรหวั่นไหวต่ออะไรๆ ง่ายๆ เลย
แพรวา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น