เมื่อเช้า
คุยโทรศัพท์กับพ่อ
นานๆ ที จะได้คุยยาวๆ
แลกเปลี่ยนไปมา ก็ถึงเรื่องสอบ
พ่อบอกว่า
เผื่อใจไว้บ้าง
พ่อรู้ว่ามันไม่ง่าย
ข้าพเจ้าบอกพ่อว่า
ก็รู้ว่ามันยาก แต่ก็อยากทำให้ได้
เกิดมายังไม่เคยสอบตก
และไม่รู้ว่า ถ้าตกจริงๆ
จะเจ็บขนาดไหน จะรับได้ไหม
กับผลที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
พ่อคงรู้นิสัยข้าพเจ้า
เรื่องอย่างนี้ หาลิมิตจากข้าพเจ้าไม่ค่อยได้
เมื่อตอนเด็กๆ ช่วงเรียนมัธยม
เวลาข้าพเจ้าอ่านหนังสือดึกๆ
ขณะที่แม่จะคอยลุกมาต้มมาม่าร้อนๆ
หรือชงชา ซื้อขนมมาตุนไว้ให้
พ่อจะลุกออกจากเตียง
เปิดประตูออกมาดูตรงโต๊ะอ่านหนังสือ
ราวๆ เที่ยงคืนของทุกวัน
พ่อลุกมาเสมอๆ
และข้าพเจ้าก็จะโดนด่าเสมอๆ
"ทำอะไรให้มันรู้จักความพอดีบ้าง"
พูดอย่างนี้ ซ้ำๆ เกือบทุกวัน
โดยเฉพาะช่วง ม.ต้น
ที่ข้าพเจ้ามักจะนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะตัวนั้น
ตั้งแต่ราวๆ 6 โมงกว่าๆ
ถึงเที่ยงคืน
พักก็ตอนลุกมากินข้าวกับพ่อแม่เท่านั้น
พ่อลุกมาด่าข้าพเจ้าประจำ
(จะว่าดุก็ไม่เชิง จะว่าด่า..ก็นั่นแหละ ใกล้เคียงสุด 555)
มาถึงตอนนี้
ขณะที่ทุกครั้งของการสอบ
ข้าพเจ้ามีแม่เป็นกำลังใจ
มีถ้อยคำสร้างพลัง และความเชื่อมั่น
"ลูกแม่ทำได้อยู่แล้ว"
แต่อีกฟากหนึ่งของการดำรงอยู่
ข้าพเจ้าก็ยังต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับ
รับว่า อะไรๆ มันก็อาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด
"ความผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา"
ดังที่พ่อเตือนสติอยู่เสมอ
และต้องยอมรับตามตรงว่า
ข้าพเจ้าเป็นพวกอ่อนแอ
และมีภูมิคุ้มกันความผิดหวัง
ในระดับที่ต่ำมาก
ใครคนหนึ่งเคยบอกข้าพเจ้าว่า
"เพราะแพรวายังไม่เคยผิดหวังจริงๆ ไง"
นั่นก็อาจจะใช่
เพราะข้าพเจ้ากลัวการผิดหวัง
มากกว่าความลำบากที่อยู่ตรงหน้า
ข้าพเจ้าอาจยอมเครียด ยอมเหนื่อย
เพื่อให้ได้สัมผัสสิ่งที่ตั้งใจไว้
ข้าพเจ้านึกภาพตัวเองไม่ออก
หากต้องเผชิญกับความผิดหวัง
ในสิ่งซึ่งได้หวังไว้จริงๆ
นี่ไม่นับรวมสิ่งอื่นๆ ที่ดูเหมือนจะหวัง
แต่ก็ไม่ได้หวัง
อารมณ์ประมาณ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่าง
เสียใจ แต่ไม่แคร์ ฮ่าๆๆ
อันนั้น ผิดหวังไป ก็หาได้กระเทือนอะไรมากมาย
เพราะรู้สภาพ รู้ภาวะ และฐานะตัวเองดี
หรือบางครั้ง
ก็คาดการณ์ได้อย่างแม่นยำเสียด้วยว่า
อันนี้ ไม่ได้หรอก
แต่อยากทำอะ มีไรมะ หุๆ
ช่วงนี้
สภาพร่างกาย และอารมณ์
เตือนออกมาเสมอ
ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
กำลังหนัก กำลังเหนื่อย กำลังเครียด
ก็เป็นธรรมดา
ทำให้เต็มที่..แล้วปล่อยวาง
ใครๆ ก็ว่ากันอย่างนั้น
แต่ปัญหาคือ
แค่ไหนถึงเรียกว่าเต็มที่
เท่าไหร่จึงควรพอ
เต็มที่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
และแม้กระทั่งหายใจมา 23 ปีกว่าๆ
ข้าพเจ้ายังนึกไม่ออกเลย
ว่ามีอะไรบ้าง
ที่ตัวเองทำเต็มที่แล้ว
เพราะเมื่อมองย้อนกลับไป
ก็รู้สึกเหมือนกับว่า
เฮ้ย...อันนั้นเราน่าจะทำได้ดีกว่านั้นนะ
เพราะฉะนั้น
เมื่อไม่รู้สึกว่าเต็มที่
และผลที่ออกมามันไม่ดี
ก็ย่อมเสียใจ
ย่อมผิดหวัง
ผิดหวังในตัวเอง
เสียใจให้ความเหยาะแหยะของตัวเอง
สิ่งเหล่านี้
สามัญ
หรือครั้งนี้
ควรปล่อยโอกาส
ให้ตัวเองได้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันความผิดหวังเสียบ้าง
...
แต่อย่าเลย
อย่าเป็นเช่นนั้นเลย
เขียนถึงตัวเอง
ในวันที่คล้ายๆ จะหมดแรงเหลือเกิน
แพรวา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น